กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--เอเอสวี อินเตอร์ กรุ๊ป
จากแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย ที่มุ่งเน้นให้หน่วยงานภาครัฐมีความรู้ความเข้าใจกำกับดูแลองค์กรให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลของการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี “กรมป่าไม้” เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่นำหลักธรรมาภิบาลดังกล่าว มาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ของชาติ
ดังนั้นทางกรมป่าไม้จึงจัดโครงการสัมมนาเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลในการจัดการป่าสงวนแห่งชาติแบบมีส่วนร่วมโดยเน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่หัวหน้าป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 300 คน ให้เกิดทักษะความรู้และเข้าใจ ในการนำหลักธรรมาภิบาลไปใช้ในการบริหารจัดการป่าสงวนแห่งชาติ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ร่วมดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ในชุมชน อีกทั้งยังปลูกฝังใช้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้กล่าวตอนหนึ่งของการบรรยายว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในทุกด้าน โดยเฉพาะทรงมีความเป็นไทยอย่างที่สุดดูได้จากพระราชจริยาวัตรของพระองค์ทั้งเรียบง่ายพอดีและมีความอ่อนน้อมถ่อมตนนี่คือลักษณะของคนตะวันออกที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบันถึงเวลาที่คนไทยจะต้องหันมาตามรอยพระยุคลบาทโดยยึดเอาหลักธรรมทั้งหลายที่ทรงแสดงให้เห็น มาใช้เป็นหลักปฏิบัติ หรือเป็นหลักทำ ทั้งนี้เพื่อความดีงามอันจะบังเกิดขึ้นในชีวิตที่เหลืออยู่นี้
“หลักธรรม 10 ประการ ตามรอยพระยุคลบาท ประกอบด้วย ข้อแรก ทำงานอย่างผู้รู้จริง และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ข้อ 2 ต้องมีความอดทน มุ่งมั่น ยึดธรรมะ และความถูกต้อง ข้อ 3 มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เรียบง่าย และประหยัดข้อ 4 มุ่งประโยชน์คนส่วนใหญ่เป็นหลัก ข้อ 5 รับฟังความเห็นของผู้อื่น เคารพความคิดที่แตกต่างข้อที่ 6 มีความตั้งใจจริงและขยันหมั่นเพียรข้อที่ 7 มีความสุจริต และความกตัญญูข้อที่ 8 พึ่งตนเอง ส่งเสริมคนดีและคนเก่งข้อที่ 9 รักประชาชนและ ข้อที่ 10 การเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน” ดร.สุเมธ กล่าว
ตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเป็นเวลานานกว่า 60ปีเหล่าพสกนิกรชาวไทยต่างได้รู้ถึงพระราชกรณียกิจมากล้นที่ทรงปฏิบัติและพระราชจริยวัตรที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งหากเราชาวไทยสามารถเรียนรู้ข้อคิดประสบการณ์ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ทั้งในส่วนของการตั้งมั่นในทศพิธราชธรรมและหลักการทรงงานในเรื่องต่างๆนั้นก็จะเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาชีวิตให้ก้าวเดินไปได้อย่างมั่นคงและถึงพร้อมด้วยประโยชน์สุขแก่ตนเองและผู้อื่นซึ่งปวงชนชาวไทยสามารถดำเนินชีวิต
หลักการทรงงานที่ประมวลไว้มิใช่หลักสำหรับผู้ปฏิบัติงานราชการเท่านั้น หากแต่เป็นหลักการทำงานที่ดีที่ทุกๆคนสามารถนำไปปรับใช้กับวิถีชีวิตและการทำงานของแต่ละคนได้ซึ่งจะเป็นมงคลชีวิตของผู้นำไปปฏิบัติเป็นแนวทางที่นำไปสู่ความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นแบบอย่างที่ดีงามในทุกด้านสมควรที่จะดำเนินรอยตามพระยุคลบาทด้วยหลักปฏิบัติ10 ประการดังกล่าวข้างต้นและหากประชาชนทุกสาขาอาชีพ และคนไทยทุกคนได้ทบทวน ยึดถือ และน้อมนำไปปฏิบัติดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติแล้วจะสามารถดำเนินชีวิตได้ด้วยดี สังคมจะสงบสุข และประเทศชาติเจริญก้าวหน้าได้อย่างแน่นอน ดร.สุเมธ กล่าวสรุป