กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--mix and match communications
“จริงอยู่ที่เราทุกคนเกิดมาต่างกัน เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าการศึกษาจะทำให้คน…เท่าเทียมกัน”กานต์ ตระกูลฮุน ประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสังคม ปัญหาเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษายังคงเป็นปัญหาที่ถูกละเลย ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังมาช้านาน ประกอบกับสภาวะของสถาบันครอบครัวที่ยากจน ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กจำนวนมากหลุดออกจากระบบการศึกษา ส่งผลให้ถูกจำกัดโอกาสที่จะมีอาชีพและอนาคตที่ดี และทำให้สังคมไทยสูญเสียศักยภาพของทรัพยากร ‘คน’ ที่มีคุณค่าไปอย่างน่าเสียดาย มูลนิธิเอสซีจีเล็งเห็นความสำคัญในปัญหาดังกล่าวจึงมุ่งมั่นแบ่งปันโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนที่อยากเรียนแต่ขาดแคลน มาเป็นระยะเวลากว่า 33 ปีแล้ว จากวันนั้นจนถึงวันนี้ มีนักเรียนที่ได้โอกาสในการเล่าเรียนกว่า 63,000 คน ภายใต้โครงการ SCG Sharing the Dream โดยมูลนิธิเอสซีจี และในปีนี้มูลนิธิฯ ยังเดินหน้ามอบความสุข ความอบอุ่น ให้กับสมาชิกครอบครัวมูลนิธิเอสซีจี ด้วยการเดินสายพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมอง มอบประสบการณ์ให้กลุ่มน้องๆ นักเรียนทุน SCG Sharing the Dream โดยมูลนิธิเอสซีจี ในงาน SCG Foundation Family Day เริ่มกันที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ก่อนจะเดินสายเพื่อพบปะกับนักเรียนทุนในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ กันต่อไป
กานต์ ตระกูลฮุน ประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวตอนหนึ่งในพิธีเปิดงาน SCG Foundation Family Day ที่มีตัวแทนเด็กทุนจากภาคกลางและภาคตะวันออกพร้อมด้วยผู้ปกครองเข้าร่วมงานกว่า 400 คน ว่า“นับเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของมูลนิธิเอสซีจี ที่ได้มอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน ผมเชื่อว่าการศึกษาเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการนำพาน้องๆ ไปสู่ความสำเร็จ จริงอยู่เราทุกคนเกิดมาต่างกัน และเลือกเกิดไม่ได้ แต่การศึกษาจะทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันได้ มูลนิธิฯ จึงมอบทุนการศึกษา SCG Sharing the Dream โดยมูลนิธิเอสซีจี ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม ตรงจุด และยั่งยืน เพื่อสร้าง ‘โอกาส’ เพราะทางการศึกษานั้นจะสามารถสร้างคนที่เก่งและดีสู่สังคมได้
มาถึง “ผู้รับ” ที่ได้รับโอกาสทางการศึกษากันบ้าง โดยในงาน SCG Foundation Family Day มีน้องๆ เด็กทุน SCG Sharing the Dream โดยมูลนิธิเอสซีจี พร้อมด้วยผู้ปกครองเดินทางมาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คราบน้ำตา และความผูกพันภายในของครอบครัว ซึ่งเรามีตัวอย่างข้อคิดที่น่าสนใจจากครอบครัวที่มาร่วมงานมาฝาก
เริ่มที่ 2 แม่ลูก อย่าง “น้องฝน” เด็กหญิงศิริวรรณ ฟักแฟง กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดพิกุลเงิน จังหวัดนนทบุรี ที่ควงคู่มากับ คุณแม่สุนันทา ฟักแฟง
น้องฝน กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ดีใจมากที่ได้รับโอกาสที่ดีจากมูลนิธิเอสซีจี ทุนการศึกษาที่ได้มาช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว ซึ่งหนูสัญญาว่าจะใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ด้วยการตั้งใจเรียน และเป็นเด็กดีของพ่อแม่ จบออกมาแล้วจะได้มีงานทำที่ดี และมีรายได้ช่วยเหลือและจุนเจือครอบครัวต่อไปคะ”
ด้าน คุณแม่สุนันทา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “รู้สึกดีใจที่ลูกได้รับโอกาสที่ดีเพื่อการศึกษา เพราะตัวเองเป็นนักการ ภารโรงก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถส่งเสียลูกให้เรียนได้สูงขนาดไหน ทุนการศึกษาที่ได้ทำให้มั่นใจว่าลูกจะได้เรียนจบในระดับสูงตามที่น้องวาดหวังไว้ ซึ่งในฐานะแม่ก็จะทำหน้าที่ในการอบรมเลี้ยงดูลูกให้เป็นคนดีของสังคม และขอขอบคุณมูลนิธิเอสซีจีที่ให้โอกาสน้องฝน และเด็กๆ อีกหลายๆ คนให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา และเติบโตขึ้นเป็นคนดีของสังคม”
ทางด้านสาวน้อย “น้องไลลา” นางสาวสุดารัตน์ หวังผลึก ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้น ปวช.3 สาขาการเลขานุการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพระนครศรีอยุธยา มาพร้อมกับ คุณพ่อสุชาติ หวังผลึก
คุณพ่อสุชาติ เล่าว่า “ด้วยข้อจำกัดทางร่างกายทำให้ผมไม่สามารถประกอบอาชีพปกติได้ จึงหันมาทำประโยชน์เพื่อสังคมและมีรายได้บางส่วนจากการช่วยเหลือและช่วยดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล เป็น อปพร.ดูแลชุมชน รวมถึงสอน เด็กๆ ในการเรียนรู้วิชาชีพต่างๆ น้องไลลาได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิเอสซีจีมาเป็นปีที่ 2 แล้ว ชีวิตผมลำบากมาเยอะ ผมไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาลำบากเหมือนผม สิ่งเดียวที่ผมสามารถช่วยให้เขาหลุดพ้นจากคำว่าลำบากได้นั้น คือ การสนับสนุนให้เขามีความรู้ มีการศึกษา ผมจะเฝ้าบอกเขาเสมอว่า ความรู้ เปรียบเสมือนอาวุธประจำกายที่จะอยู่ติดตัวเรา ไม่มีใครมาทำลายหรือลักขโมยได้ ผมต้องขอบคุณมูลนิธิเอสซีจี ที่มอบโอกาสที่ดี มอบความสุขกลับมาให้ผมและครอบครัวอีกครั้ง ”
ด้าน น้องไลลา กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ทุน SCG Sharing the Dream โดยมูลนิธิเอสซีจี ทำให้หนูมองเห็นอนาคตของตัวเองชัดเจนขึ้น ความตั้งใจด้านการเรียนที่วางไว้สามารถเป็นจริงได้ ก่อนหน้านี้หนูจะกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียน ไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องทำงานหนัก แต่เมื่อมีคนมองเห็นและหยิบยื่นโอกาสให้หนู ความรู้สึกกังวลก็หมดไป ครอบครัวที่อบอุ่นและเสียงหัวเราะกลับคืนมาในครอบครัวเราอีกครั้ง”
ปิดท้ายกันด้วยครอบครัวเด็กช่างอย่าง “น้องกอไผ่” นายธนัฐชัย กรรณิการ์ ศึกษาอยู่ระดับ ปวช.2 สาขาการเขียนแบบเครื่องกลโรงงาน วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ มาพร้อมกับ คุณแม่พัชรินทร์ กรรณิการ์
น้องกอไผ่ กล่าวว่า “นอกจากในเรื่องของทุนการศึกษาที่ได้รับจากมูลนิธิฯแล้ว ผมยังได้รับความรู้ประสบการณ์ และมิตรภาพที่ดีตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา รู้สึกภาคภูมิใจและดีใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมูลนิธิเอสซีจี เดิมทีก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับโอกาสนี้ เพราะความคิดหรือมุมมองของบุคคลทั่วไปที่มองเด็กที่เรียนสายอาชีวะค่อนข้างจะติดกับความรุนแรง เกเร ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้ผมดีใจที่ยังมีหน่วยงานที่เห็นความสำคัญของคนที่เรียนสายอาชีวะว่าเป็นการเรียนที่เน้นการปฏิบัติ มีทักษะอาชีพติดตัว ดังนั้นผมขอใช้โอกาสตรงนี้ให้ดีที่สุด เก็บเกี่ยวความรู้ประสบการณ์ และตั้งใจเรียน รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้องๆ สายช่าง เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า เด็กช่างน้ำดียังมีอยู่ในสังคมไทยครับ”
ด้าน คุณแม่พัชรินทร์ กรรณิการ์ กล่าวเสริมว่า “ครอบครัวเราอยู่กันแบบเพื่อน แม่จะสอนให้ทุกคนรู้จักบทบาทและหน้าที่ของตัวเอง รู้จักแบ่งเวลาในการรับผิดชอบทั้งเรื่องการเรียน และการช่วยเหลือแบ่งเบางานบ้าน รู้สึกภูมิใจที่เขาเป็นเด็กมีความรับผิดชอบ และต้องขอขอบคุณมูลนิธิเอสซีจีที่ได้มอบโอกาสดีๆ ให้กับครอบครัว ซึ่งถือเป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าทรัพย์สินใดๆ ที่วันหนึ่งก็สามารถหมดไปได้ แต่ความรู้จะอยู่ติดตัวเราและจะเป็นเครื่องมือที่สร้างความทัดเทียมในสังคมได้ต่อไปคะ ”
ถือเป็นส่วนหนึ่งของเสียงสะท้อนจากครอบครัวที่เข้าร่วมงาน SCG Foundation Family Day ถึงแม้จะเป็นเพียงเสียงสะท้อนเล็กๆ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการมอบโอกาสทางการศึกษา เพราะมูลนิธิฯ เชื่อว่าการให้การศึกษาคือการติดอาวุธทางปัญญาให้แก่อนาคตของชาติ และถือเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้มูลนิธิเอสซีจียังคงเดินหน้าสนับสนุนการศึกษา เพื่อสร้าง “คนเก่งและดี” สู่สังคมต่อไป ตอกย้ำพันธกิจหลักของมูลนิธิฯ ที่ว่า “เชื่อมั่นในคุณค่าของคน”