กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--ไทยทีวีสีช่อง3
...กำลังเข้มข้นสุดๆ สำหรับละครดราม่าอย่าง “ทรายสีเพลิง” ของค่ายเมคเกอร์ วาย ที่ดำเนินเรื่องมาใกล้จะถึงจุดจบแล้ว โดยฉากนี้เป็นฉากสุดดราม่ากระชากอารมณ์ โดยที่สาวโลกสวยอย่าง “ลูกศร” ที่รับบทโดย “มิว-นิษฐาจิรยั่งยืน” เกิดอุบัติเหตุเรือคว่ำ เหตุเกิดมาจากเพลิงแค้นในใจของทราย ที่บานปลายไม่จบสิ้น ทำให้เรื่องราวร้ายแรงนี้เกิดขึ้น ทุกคนต่างโทษว่าสาเหตุทั้งหมดนี้เกิดจาก “ทราย” รับบทโดย “ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต”ที่ปล่อยให้ความแค้นครอบงำ จนเผาผลาญทั้งตัวและหัวใจ…
...เบื้องหน้าการถ่ายทำในฉากนี้ ทีมงานได้ยกกองไปถ่ายทำกันริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเรื่องราวเกิดจากปมปัญหา และแผนการแก้แค้นของทรายทั้งหมด โดยทรายตั้งใจแก้แค้นเสาวนีย์ ที่รับบทโดย “อาตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา” เนื่องจากเสาวนีย์เคยแย่งทุกอย่างของทรายและแม่ไป แต่การแก้แค้นของทราย ในครั้งนี้ หมากในการเดินเกมส์แก้แค้นไม่ได้มีแค่เสาวนีย์ แต่มีลูกสาวของเสาวนีย์อย่างลูกศร เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย ซึ่งทรายจงใจทำให้เสาวนีย์เจ็บที่สุด เท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา ทำให้เหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้เกิดขึ้น หลังจากทรายจัดฉากให้ฌานและลูกศรได้ใกล้ชิดกัน จนทำให้ทั้งคู่เกิดความหวั่นไหว จนกลายเป็นความรักแล้วแผนการต่อไปของทรายก็คือ ทรายตั้งใจคุยกับฌานเพื่อให้ลูกศรได้ยิน ว่าสิ่งที่ฌานทำนั้น ฌานทำเพื่อต้องการให้ทรายหึง โดยแค่ดึงลูกศรเข้ามา และทำดีกับลูกศรเพื่อประชดทรายเท่านั้น ทั้งที่จริงๆ แล้ว ฌานไม่เคยรักลูกศรเลย และก็ได้ผล ลูกศรได้ยินดังนั้นจึงเข้าใจผิด คิดว่าตัวเองโดนฌานหลอกมาโดยตลอด ลูกศรเจ็บปวดและเสียใจมาก วิ่งหนีออกมาจากคอนโดของฌาน และขับเรือออกไป โดยมีฌาน ที่รับบทโดย “ชาคริต แย้มนาม” รีบขับเรือตามมา เพื่อจะอธิบายความจริงให้ลูกศรเข้าใจ ว่าสิ่งที่ลูกศรได้ยินนั้นไม่ใช่เรื่องจริง แต่ลูกศรเสียใจมาก ไม่ฟังอะไร ขับเรือด้วยความเร็วโดยไม่ทันมองเรือลำใหญ่ ที่อยู่ด้านหน้า ลูกศรหักหลบเรือ จึงทำให้ลูกศรกระเด็นตกจากเรือ และจมหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยาฌานเห็นคนรักของตนกระเด็นตกน้ำและจมหายไปต่อหน้าต่อตา...
...ที่เห็นว่าเบื้องหน้านั้นดราม่าสุดโหดแล้ว เบื้องหลังก็ไม่แพ้กันเลย การถ่ายทำในฉากนี้ไม่ได้ผ่านไปง่ายๆ เลย เพราะฉากนี้ถือว่าเป็นฉากโหดสุดหินของสาวมิวจริงๆ เพราะว่าสาวมิวและหนุ่มชาคริต ต้องขับเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีทั้งเรือลำใหญ่และลำเล็กแล่นสวนกันไปมามากมาย และในแม่น้ำก็มีคลื่นแรง จึงทำให้เรือโคลงและทำให้ยากต่อการบังคับเรือ แต่สาวมิวและหนุ่มชาคริตก็มีสปิริตแรงกล้า ขอเล่นฉากนี้ด้วยตัวเอง โดยไม่ใช้สแตนด์อิน ทางด้านหนุ่มชาคริตนั้นไม่น่าเป็นห่วง เพราะด้วยนิสัยของผู้ชายแล้ว ก็พอจะมีทักษะด้านการขับรถขับเรือมาบ้าง แต่ฟากสาวน้อยร่างเล็กอย่างสาวมิวนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ขับเรือจริงๆ และด้วยซีนนี้มีความอันตรายมาก ทางทีมงานจึงต้องมีการเซฟความปลอดภัย ให้กับนักแสดงเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจน้ำ หรือนักประดาน้ำ ที่คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง เมื่อถ้าเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมเข้าชาร์จช่วยเหลือทันที และเมื่อทุกอย่างพร้อม “ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์” ผู้กำกับฯ ก็สั่งเดินกล้องถ่ายทำ เมื่อได้ยินป้าแจ๋วสั่งนับถอยหลัง สาวมิวก็น้ำตาหยดติ๋ง พร้อมกับเร่งเครื่องเรือด้วยท่วงท่ามั่นใจ ทมัดทะแมงสุดๆ นี่ถ้าไม่รู้ ต้องคิดว่าสาวมิวเป็นนักขับเรือมืออาชีพมาก่อนอย่างแน่นอน เพราะภาพที่ออกมานั้นสวยงามมากจริงๆ ซึ่งหลังจากที่ถ่ายทำเสร็จ สาวมิวก็เอ่ยปากว่า“ฉากนี้ยากมากจริงๆ ต้องร้องไห้ไปด้วย ขับเรือไปด้วย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ขับเรือจริงๆ จังๆ แบบนี้ และน้ำในแม่น้ำก็มีคลื่นแรงมาก ทำให้เรือโคลงตลอดเวลา บังคับเรือค่อนข้างยาก แต่ท้าทายดีคะ และพอเช็คเทปแล้ว ก็เห็นว่าได้ภาพสวยๆมาฝากคุณผู้ชม ก็ดีใจคะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ”รับรองได้เลยคะว่า ถ้าคุณผู้ชมดูแล้ว ต้องปรบมือให้กับความเก่ง และความกล้าหาญของสาวน้อยคนนี้ และแถมยังอดสงสารเธอไม่ได้อย่างแน่นอนคะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ กับฉากนี้ในละครเรื่องทรายสีเพลิงคะ...
...มาตามลุ้นกันว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้เกิดโศกนาฏกรรมความรักหรือไม่ และเพลิงแค้นในใจของทราย มันจะเผาผลาญตัวและหัวใจของทรายและคนรอบข้างอย่างไร ติดตามได้ในละครเรื่อง “ทรายสีเพลิง” ที่นำแสดงโดย ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ร่วมด้วย ป๋อ-ณัฐวุฒิ สะกิดใจ , ชาคริต แย้มนาม , มิว-นิษฐาจิรยั่งยืน และ อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่ง กำกับการแสดงโดย “ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์” ควบคุมการผลิตโดย “พี่จ๋า-ยศสินี ณ นคร”