กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์แห่งชาติ (ศปคม.) กระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ กรมประมง กรมเจ้าท่า และตำรวจ เป็นต้น เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือแรงงานประมงที่ถูกหลอกไปทำงานที่อินโดนีเซีย ณ ห้องประชุมชั้น ๘ อาคารใหม่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สะพานขาว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากกรณีที่แรงงานประมงไทยร้องเรียนสื่อมวลชนไทยรัฐให้เสนอข่าว ว่าถูกนายหน้าคนไทยหลอกจากสถานีขนส่งหมอชิตไปใช้แรงงานทาส ให้ลากอวนจับปลาในน้ำน่านอินโดนีเซียเป็นปีโดยไม่ให้กลับประเทศ และไม่สามารถติดต่อกับใครได้ โดยข้อมูลเบื้องต้นที่สื่อนำเสนอทราบว่ายังมีคนไทยจำนวนมากถูกหลอกมาใช้งานให้เป็นแรงงานทาสผิดกฎหมาย บนเรือประมงไทยที่จับปลาในทะเลอาราฟูร่า และในบริเวณทะเลจีนใต้ (บริเวณหมู่เกาะนาทูน่า) โดยที่ไม่มีสิทธิกลับประเทศไทย ไม่สามารถติดต่อญาติพี่น้องได้ ถูกบังคับปิดกั้นทุกอย่าง ซึ่งแรงงานที่หนีรอดมาร้องเรียนสื่อระบุว่า เมื่อปี ๒๕๕๒ มีคนไทยขึ้นเรือถูกหลอกมาด้วยกันอีก ๔๐ ราย
นอกจากนั้น ยังมีกรณีที่ลูกเรือประมงคนไทย จำนวน ๖ ราย ถูกหลอกไปใช้แรงงานทาสที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยเมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๗ กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เข้าร่วมหารือการช่วยเหลือลูกเรือประมง จำนวน ๖ ราย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย และเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๗ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้ประสานงานกับกองคุ้มครองฯ และสถานฑูตไทยในอินโดนีเซีย เพื่อให้ความช่วยเหลือดำเนินการเรื่องส่งตัวลูกเรือประมงทั้ง ๖ รายกลับประเทศไทย โดยจะเข้าร่วมรับตัวลูกเรือประมง ทั้ง ๖ ราย พร้อมทำการคัดแยกผู้เสียหาย และในเบื้องต้นทราบว่าลูกเรือดังกล่าวเป็นลูกเรือของเรือประมงไทย ชื่อ “มหาชัย” ซึ่งถูกไต้ก๋งเรือกักขังไว้ภายในห้องของลำเรือ ทั้งนี้ กองคุ้มครองฯ จะแจ้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าสอบสวนข้อเท็จจริง จากลูกเรือประมงต่อไป
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุดังกล่าวนี้ ตนจึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือแรงงานประมงที่ถูกหลอกไปทำงานที่อินโดนีเซีย ทั้งนี้ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้เตรียมการช่วยเหลือลูกเรือประมงทั้ง ๖ รายไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ร่วมรับตัวคัดแยกเหยื่อผู้เสียหาย ภายหลังที่ลูกเรือเดินทางกลับมาถึงประเทศ ซึ่งหากพบว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ทางกระทรวงฯ จะนำตัวส่งเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักฯเป็นการชั่วคราว รวมทั้งประสานเรื่องการดำเนินคดี การช่วยเหลือเงินสงเคราะห์เป็นค่าส่งกลับภูมิลำเนา และการรักาพยาบาลตามสิทธิ์ของลูกเรือประมงทั้ง ๖ รายต่อไป