กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ. สิงห์ เอสเตท หลังจากรับโอนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทในกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ และธุรกิจโรงแรมของคุณสันติ ภิรมย์ภักดี พร้อมซื้อขาย 26 ก.ย. นี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “S”
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าหุ้นเพิ่มทุนของ บมจ.สิงห์ เอสเตท (S) เดิมชื่อ บมจ.รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (RASA) จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2557 หลังจากเข้าซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) ของบริษัท เอส ไบร์ทฟิวเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สันติบุรี จำกัด ของคุณสันติ ภิรมย์ภักดี ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงแรม สันติบุรี บีช รีสอร์ท กอล์ฟ แอนด์ สปา ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
S มีทุนชำระแล้ว 4,712.35 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 550 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากการรับโอนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทในเครือของกลุ่มบุญรอดและธุรกิจโรงแรมจำนวน 4,162.35 ล้านหุ้น โดยจัดสรรให้กลุ่มบริษัท สิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนท์ จำกัด จำนวน 2,932.40 ล้านหุ้น และคุณสันติ ภิรมย์ภักดี จำนวน 1,229.95 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 ในราคาหุ้นละ 1.87 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 7,783.60 ล้านบาท โดยมี บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการยื่นขอให้รับหลักทรัพย์ใหม่ (Relisting) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้ความเห็นชอบในการรับโอนกิจการ
นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการ S เปิดเผยว่า ภายหลังการรับโอนกิจการ S มุ่งเน้นเป็นผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยพร้อมไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคม ปัจจุบัน S เป็นผู้พัฒนาโครงการและเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารชุดพักอาศัยในเขตกรุงเทพฯ ได้แก่ โครงการ Intro Condominium โครงการบ้านจัดสรร RASA Maxx Ville และดำเนินธุรกิจโรงแรม สันติบุรี บีช รีสอร์ท กอล์ฟ แอนด์ สปา โรงแรมสไตล์รีสอร์ทระดับห้าดาวบนเกาะสมุย รวมทั้งที่ดินเปล่าใจกลางกรุงเทพฯ ที่อยู่ระหว่างรอพัฒนา
ภายหลังการรับโอนกิจการและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ของ S ได้แก่ กลุ่มบริษัท สิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ถือหุ้น 56.97% กลุ่มนายสันติ ภิรมย์ภักดี ถือหุ้น 31.36% และผู้ถือหุ้นเดิมของ Sถือหุ้น 11.67% ทั้งนี้ S มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองอื่นๆ
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูข้อมูลบริษัทได้จากสรุปข้อสนเทศของบริษัทที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.singhaestate.co.th