กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต 3 ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงสมองเสริมสร้างความจำ บำรุงหัวใจจากพืชสมุนพรรวมและปรับสมดุลร่างกายต้านความเครียด/ป้องกันความดันโลหิตสูง ให้แก่บริษัทอาณาจักรสุขภาพเพื่อนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ หวังส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ยั่งยืน
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้ว่าการ วว. กล่าวชี้แจงว่า จากความสำเร็จของ วว. โดยฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เภสัชโภชนภัณฑ์บำรุงสมองเสริมสร้างความจำ (Braini-Tab) ผลิตภัณฑ์เภสัชโภชนภัณฑ์บำรุงหัวใจจากพืชสมุนไพรรวม (Kardiofit) และผลิตภัณฑ์ปรับสมดุล EPAS CAPS ต้านความเครียดและป้องกันความดันโลหิตสูง ทั้งนี้เพื่อให้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในเชิงพาณิชย์ โดย วว. ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ชนิดให้แก่บริษัทอาณาจักรสุขภาพ จำกัด
“...ปัจจุบันผู้ป่วยหรือประชากรที่สนใจเรื่องสุขภาพส่วนใหญ่ หันมาเลือกใช้การรักษาหรือป้องกันโรคต่างๆด้วยสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพิ่มขึ้น ทั้งในรูปของยา อาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือเภสัชโภชนภัณฑ์ ซึ่งตรงกับแนวทางการดำเนินงานของ วว. ที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่จำนวนมากในประเทศ เพื่อนำมาวิจัยและพัฒนาให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เกิดธุรกิจใหม่และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการอย่างยั่งยืน...” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
ผลิตภัณฑ์ซึ่ง วว. ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เชิงพาณิชย์ในครั้งนี้ ได้ผ่านการศึกษาวิจัยและพัฒนาอย่างเป็นระบบจากสมุนไพรของไทยที่มีศักยภาพสูงในด้านการรักษาหรือป้องกันโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เปล้าตะวันและผักบุ้งเพื่อต้านความเครียดและป้องกันโลหิตสูง หรือจะเป็นสมุนไพรรวม อาทิ สารภี บุนนาค เตยหอม มะตูม มะลซ้อนและพิกุลเพื่อบำรุงหัวใจ ป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบตันและป้องกันการเต้นผิดปกติของหัวใจ ตลอดจนป้วยเล้งที่นำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงสมองและเสริมสร้างความจำ
“...หวังเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยศักยภาพเทคโนโลยีของ วว. ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ผสานกับศักยภาพและความตั้งใจของภาคเอกชนครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผลิตภัณฑ์จากฝีมือนักวิจัยไทยได้รับความนิยมจากตลาดผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศต่อไป...” นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ กล่าวสรุป