กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์
พบเด็กไทยร้อยละ 20 ไม่ได้ทานอาหารเช้าเป็นประจำ ห่วงการอดอาหารเช้าส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายและสติปัญญา
ระบุความเร่งรีบยามเช้า เด็กตื่นสาย ไม่มีเวลา ไม่มีการเตรียมอาหารเช้า เป็นสาเหตุหลัก
ชี้เด็กไทยอายุ 6-12 ปี ได้รับแคลเซียม ธาตุเหล็ก ไม่เพียงพอต่อวัน
คุณแม่เซเลบริตี้ นิโคล เทริโอ้ แนะเคล็ดลับเตรียมอาหารเช้าเนสท์เล่ ซีเรียล โฮลเกรน ทางเลือกที่มีประโยชน์ ให้คุณค่าทางโภชนาการ อร่อย และสะดวก สำหรับมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน
เมื่อเร็วๆนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเช้าซีเรียล โดยบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของไทย จัดงาน “เนสท์เล่ เฮลตี้ เบรคฟาสต์ เดย์” (Nestlé Healthy Breakfast Day) รณรงค์ให้เด็กวัยเรียนรับประทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ทุกวัน ห่วงเด็กไทยร้อยละ 20 ไม่ได้ทานอาหารเช้าเป็นประจำ และได้รับสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอในแต่ละวัน โดยในงานมีคุณแม่เซเลบริตี้คนดัง นิโคล เทริโอ จูงมือน้องทิกเกอร์ อชิระ เทริโอ มาแนะนำเคล็ดลับเตรียมอาหารเช้าซีเรียล โฮลเกรน ให้คุณค่าทางโภชนาการสำหรับลูกรัก ทั้งอร่อยและสะดวก กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ เทสโก้ โลตัส สาขาพระราม 4
มร. เดวิด คาร์เตอร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย หน่วยธุรกิจอาหารเช้าซีเรียล ภูมิภาคอินโดไชน่า บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นในแนวคิด “Nestlé Good Food, Good Life” ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเช้าเนสท์เล่ซีเรียล เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรับประทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ และเดินหน้าส่งเสริมภาวะโภชนาการที่ดีของเด็กในวัยเรียนเสมอมา โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรม ‘เนสท์เล่ เฮลตี้ เบรคฟาสต์ เดย์’ ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมอาหารเช้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้กับลูกทุกวัน ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้เด็กมีสมาธิ เติบโตสมวัย และพร้อมสำหรับการเรียนรู้ โดยเฉพาะอาหารเช้าที่มีส่วนประกอบของโฮลเกรน หรือธัญพืชเต็มเมล็ดที่ให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง จะยิ่งช่วยให้เด็กๆ มีสมาธิในการเรียนและพร้อมในการทำกิจกรรมต่างๆยิ่งขึ้น”
จากข้อมูลของรองศาสตราจารย์ ดร. ประไพศรี ศิริจักรวาล และทีมวิจัย สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้ทำการศึกษาพฤติกรรมการบริโภคอาหารเช้าของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1-6 โดยการสุ่มสำรวจนักเรียนจำนวน 1,012 คน จาก 19 โรงเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ปี2556 พบว่า เด็กนักเรียนที่ทานอาหารเช้าเป็นครั้งคราวหรือไม่ได้ทานเลยมีประมาณถึงร้อยละ 20 โดยมีสาเหตุหลักมาจากความเร่งรีบไม่มีเวลา เด็กตื่นสาย และที่บ้านไม่มีการเตรียมอาหารไว้ให้ลูก
ปัจจัยความเร่งรีบในยามเช้า ทำให้เด็กไม่ได้รับประทานอาหารมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน ซึ่งการได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ตั้งแต่มื้อแรก จะช่วยเริ่มต้นกระบวนการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงานที่ร่างกายต้องการ ทำให้ร่างกายมีพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งเรียนและเล่นอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถช่วยลดพฤติกรรม อาทิ การกินจุบจิบ ซึ่งเป็นสาเหตุให้น้ำหนักเกิน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะอ้วนและเบาหวาน
ทั้งนี้ นอกจากพลังงานที่ได้รับซึ่งจำเป็นต่อการเริ่มต้นวันใหม่แล้ว มีหลายการศึกษาพิสูจน์ให้เห็นว่า อาหารเช้าช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้เร็วขึ้น มีสมาธิในชั้นเรียน โดยเด็กที่ได้รับอาหารเช้าที่มีประโยชน์ประกอบไปด้วยธัญพืช ใยอาหาร โปรตีน และมีปริมาณน้ำตาลน้อย จะทำให้เด็กมีความสนใจ และมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานขึ้น และมีความจำดีในการเรียนหนังสือ
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการของเนสท์เล่ คุณกรทิพย์ ฐิติธรรมจริยา กล่าวว่า “อาหารเช้าที่เด็กไทยส่วนใหญ่นิยมรับประทาน อาทิ ขนมปัง ข้าวเหนียวหมูปิ้ง จะได้รับคาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีนเป็นหลัก อาจจะยังขาดสารอาหารพวกวิตามินและแร่ธาตุ ทั้งนี้จากข้อมูลโครงการสำรวจภาวะโภชนาการและสุขภาพของเด็กในภูมิภาคอาเซียน สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งสำรวจในปี 2554 พบว่า แคลเซียมและเหล็กเป็นสารอาหารที่เด็กไทยอายุ 6-12 ปี ได้รับไม่เพียงพอต่อความต้องการในหนึ่งวัน
โดยเด็กในเมืองได้รับแคลเซียมเฉลี่ย 75% ส่วนเด็กต่างจังหวัดได้รับแคลเซียมเฉลี่ยเพียง 44% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน และเด็กเกือบ 40% มีภาวะขาดธาตุเหล็ก ซึ่งแคลเซียมและธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อเด็ก เพราะแคลเซียมมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง ส่วนเหล็ก เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง”
“การทานอาหารเช้าเนสท์เล่ซีเรียลโฮลเกรน นอกจากจะช่วยให้เด็กได้รับคาร์โบไฮเดรตจากโฮลเกรนแล้ว ยังช่วยให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะแคลเซียมและธาตุเหล็กอย่างการทานอาหารเช้าเนสท์เล่ซีเรียลโฮลเกรนโกโก้ ครั้นช์ 1 ถ้วย (30 กรัม) กับนม 125 มิลลิลิตร จะทำให้ได้รับแคลเซียมถึง 35% และธาตุเหล็ก 25% ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน อาหารเช้าเนสท์เล่ซีเรียลโฮลเกรน จึงถือเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับเริ่มต้นวันใหม่ของเด็กในวัยเรียนรู้” คุณกรทิพย์ กล่าว