กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
นอกจากความมุ่งมั่น ขยันหมั่นเพียร สามัคคี มีระเบียบวินัยแล้ว “การเปลี่ยน..เพื่อสิ่งที่ดีขึ้น” ก็เป็นอีกหนึ่งค่านิยมที่จะช่วยขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้ ล่าสุด ทีเอ็มบี และ สมาชิกสังคมออนไลน์ www.makeTHEdifference.org ร่วมกับผู้สนับสนุน อาทิ สำนักงานเขตปทุมวัน กองทัพบก สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี แพลทินั่มกรุ๊ป นิปปอนเพนต์ เอสแอนด์พี ไอศกรีมวอลล์ กลุ่มนักศึกษาจากหลายสถาบัน ฯลฯ จัดกิจกรรม “อินวิซิเบิล ไทยแลนด์ (Invisible Thailand)” ลงมือ ลงแรงปรับปรุงภูมิทัศน์ใจกลางมหานคร ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บขยะ ทำความสะอาดพื้นที่ ซ่อมแซมรั้ว ทาสี ติดไฟฟ้าเพิ่มความสว่าง ติดตั้งตู้แดงสายตรวจเพื่อให้มีการสอดส่องดูแลความปลอดภัยแก่ผู้คนที่เดินสัญจรไปมาในย่านนี้ ณ บริเวณทางเดินเลียบคลองแสนแสบ สะพานลอยชิดลม นับเป็นการแก้ไขปัญหาที่เคยถูกละเลยหรือมองข้ามไป ทั้งๆที่ต้องมีชีวิตอยู่กับสิ่งนี้ทุกวัน ภายใต้แนวคิด Make THE Difference หรือ เปลี่ยน...เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น
บุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า “เว็บไซต์ www.makeTHEdifference.org เปิดตัวขึ้นในปลายปี 2555 โดยมีวัตถุประสงค์ให้เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับทุกคน และเป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระดับส่วนบุคคลไปถึงระดับเพื่อสังคมส่วนรวม และส่งต่อพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในวงกว้าง เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด Make THE Difference ปัจจุบันนี้มีสมาชิกจำนวน 35,556 คน และในวันนี้ เราได้เห็นพลังโซเชียลมีเดีย เสียงของบุคคลที่ไม่ยอมจำนนกับความเคยชิน เสียงที่กระจายต่อๆ กัน และรวมพลังกัน ลุกขึ้นมาช่วยกันแก้ไขปัญหาเพื่อเปลี่ยนให้สังคมของเราดีขึ้น”
วิสูตร แสงอรุณเลิศ บรรณาธิการ นักเขียน นักแต่งเพลง ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหนังสือนับสิบเล่มและบทเพลงอีกมากมาย สมาชิกสังคมออนไลน์ www.makeTHEdifference.org เผยว่า “ปัญหาในสังคมไทย เรียกว่าลืมตาตื่นมาก็เจอแล้ว แต่พวกเราปล่อยปละละเลย จนเกิดเป็นความเคยชิน ปัญหารอบๆ ตัว จึงไม่หมดไปเสียที และวันนี้ ถึงเวลาจัดการกับปัญหาแล้ว เพื่อให้พวกเราอยู่กันได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น ต่อไปนี้ ตรงนี้ จะเป็นทางเดินที่สวยงาม เลียบคลองแสนแสบ ไม่ใช่แสนแซ่บ แบบที่เรียกกัน”
คงเดช กี่สุขพันธ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอที โรงเรียนนานาชาติ ผู้โพสต์ปัญหาทางเดินเลียบคลองแสนแสบสะพานลอยชิดลม เผยว่า “สิ่งที่อยากจะเปลี่ยนต่อไป คือ ตลอดทางเดินเลียบคลองแสนแสบ ยังมีอีกหลายช่วงที่มืด รกร้าง จริงๆ แล้ว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้เส้นทางคลองแสนแสบสัญจรเยอะมาก เพราะเป็นทางเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ถ้าตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยสตรีทอาร์ท จะดูน่ามองมากขึ้น และยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ ที่ดี เป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศ หรือจะเปลี่ยนตรงนี้ ให้เป็นเวนิส ของกรุงเทพเลยก็ดี”
ชลิต นาคพะวัน จิตรกรผู้สละเวลา และใช้ศิลปะ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคม เผยว่า “เราเติมสีสัน เพื่อให้ดูมีชีวิตชีวา แต่งเติมด้วยสัญลักษณ์และกราฟิกต่างๆ ที่แสดงถึงความรัก ความมีอิสรภาพ อย่างเช่น หัวใจ นก ดอกไม้ ฯลฯ อย่างน้อย สีสันที่ดูมีชีวิตชีวา ก็เหมือนกับแสงสว่างที่ช่วยส่องทางดีๆ ให้กับคนในชุมชน”
หยวน-นิธิชัย ยศอมรสุนทร นักแสดงหนุ่ม พลังเกินร้อย ที่ร่วมเป็นอีกหนึ่งจิตอาสาที่ช่วยเปลี่ยน เผยว่า “เห็นผมตลกไปวันๆ แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนชอบทำงานเพื่อสังคม อยากทำอะไรเพื่อบ้านเรา ทุกวันนี้คนเรานึกถึงแต่ตัวเองกัน อาจเป็นเพราะเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากในชีวิตมากเกินไปหรือเปล่า แต่ถ้าเรานำเทคโนโลยี มาใช้ให้เป็นประโยชน์ อย่างแคมเปญนี้ ที่เห็นภาพปัญหา ถ่ายรูปแล้วแชร์ รูปปัญหานั้น ก็จะไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและแก้ไขในที่สุด เหมือนอย่างที่เรามารวมพลังกันวันนี้ ซึ่งประโยชน์ไม่ใช่แค่กับเรา แต่เป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม”
Invisible Thailand อีกหนึ่งก้าวของการ “เปลี่ยน” ด้วยสองมือเรา และเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเริ่มต้นที่ดี ที่จะเปลี่ยนสังคมไทย ไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น