กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--VERO PR
จอห์นสัน คอนโทรลส์ทุ่มงบประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และเวลา 3 ปี พัฒนาและขยายผลิตภัณฑ์ทำความร้อนและความเย็นที่ช่วยลดการก่อปัญหาภาวะโลกร้อน
จอห์นสัน คอนโทรลส์ บริษัทระดับโลกผู้ให้บริการในหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้นำในอุตสาหกรรมทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมการประชุมที่ทำเนียบขาว เพื่อหามาตรการลดการใช้สารทำความเย็นในระบบเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ทั้งนี้ จอห์นสัน คอนโทรลส์ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และเวลา 3 ปี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งปรับปรุงและขยายผลิตภัณฑ์เดิมที่มีค่าการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนต่ำ
แผนปฎิบัติการเพื่อลดภาวะโลกร้อน หรือ Climate Action Plan ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เน้นให้เห็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องลดการปล่อยก๊าซซึ่งเกิดจากสารทำความเย็นไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFC) บางชนิด รวมถึงความจำเป็นที่ต้องมีการกำหนดเป้าหมาย พันธสัญญา และความร่วมมือที่จะนำไปสู่ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศที่สามารถปฏิบัติได้จริง รายงานจากทำเนียบขาวระบุว่าอัตราการปล่อยก๊าซไฮโดรฟลูออโรคาร์บอนที่มีค่าการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming Potential หรือ GWP ) สูง และเป็นตัวการก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก จะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากระดับ 1.05 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน1 เป็น 3 เปอร์เซ็นต์ในปี พ.ศ. 2563 และจะเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าในปี พ.ศ. 2573 หากยังไม่มีมาตรการรับมือใดๆ
“เราขอยกย่องหน่วยงานบริหารจัดการและควบคุมดูแลที่ได้ประสานความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อลดการใช้สารไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน” ลอร่า วานด์ รองประธานฝ่ายชิลเลอร์โซลูชั่นส์ ธุรกิจ Building Efficiency ของจอห์นสัน คอนโทรลส์ กล่าว
ในงานประชุมนี้ จอห์นสัน คอนโทรลส์ ได้ย้ำถึงความสำคัญของการพิจารณาประสิทธิภาพการใช้พลังงานของระบบควบคู่ไปกับการเลือกใช้สารทำความเย็นแบบใหม่ที่มีค่าการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนต่ำ ทั้งนี้ ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 98 เปอร์เซ็นต์ ที่ปล่อยออกมาตลอดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศอาจเกิดขึ้นได้จากการใช้พลังงานเพียงอย่างเดียว โดยไม่รวมถึงสารทำความเย็นที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน
รองประธานฝ่ายชิลเลอร์โซลูชั่นส์ยังกล่าวด้วยว่าสารทำความเย็นใหม่บางชนิดที่วางจำหน่ายในตลาดโลกทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ลดลง และส่งผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม
“ประสิทธิภาพการใช้พลังงานเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของระบบตลอดอายุการใช้งานมากที่สุด” วานด์ กล่าว “ดังนั้น ในการเลือกใช้สารทำความเย็น เราจึงไม่อาจละเลยเรื่องประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้”
จอห์นสัน คอนโทรลส์ คำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลักเมื่อใดก็ตามที่มีการอภิปรายกับสมาคมอุตสาหกรรมและองค์กรควบคุมต่างๆ เกี่ยวกับกฎข้อบังคับและมาตรฐานในการใช้สารทำความเย็น นอกจากนี้ยังได้เลือกใช้สารทำความเย็นที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสิ่งแวดล้อมได้ดีที่สุด โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ความน่าเชื่อถือ ความสามารถเข้าถึงได้ และราคาที่เหมาะสม
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จอห์นสัน คอนโทรลส์ ได้ใช้งบประมาณไปแล้ว 26 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอัตราการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนต่ำ