กรุงเทพ--15 ต.ค.--ไครสเลอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส
ไครสเลอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดยไครสเลอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าจี๊ป ไครสเลอร์ และผู้ใช้รถในเมืองไทย ประกาศยืนยันพร้อมดำเนินกิจกรรมทุกอย่างแทนบริษัทเดิม เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกและความพอใจสูงสุด และยังเป็นศูนย์กลางที่ให้ความพร้อมด้านผลิตภัณฑ์บริการหลังการขายและอะไหล่อยู่เหมือนเดิม พร้อมรุกอย่างต่อเนื่องด้านการลงทุน ขยายโชว์รูม ศูนย์บริการและเครือข่ายเมกะดีลเลอร์ทั่วประเทศ เร่งขยายไลน์ผลิตจี๊ปเชโรกี เพื่อสนองความต้องการลูกค้าในตลาดเมืองไทยต่อไป
มร.เดวิด ดับบลิว โฮวาร์ด ประธาน บริษัท ไครสเลอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "เนื่องจากเกรงว่าลูกค้า จี๊ป และไครสเลอร์ รวมถึงลูกค้าทั่วไปที่สนใจในผลิตภัณฑ์จะเกิดความสับสนและความไม่แน่ใจในสถานการณ์ลงทุนและบริการหลังการขาย ดังนั้นทางบริษัทฯ ขอย้ำให้ลูกค้ามั่นใจอีกครั้งว่า ทางเราได้เป็นผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายยานยนต์จี๊ปและไครสเลอร์ในเมืองไทย แทนผู้จัดจำหน่ายรายเดิม ได้ดำเนินกิจกรรมทางการตลาดส่องเสริมช่องทางการจำหน่ายและให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าจี๊ป และไครสเลอร์ อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2541 ที่ผ่านมา และพร้อมจะเป็นศูนย์กลางที่จะดำเนินธุรกิจยานยนต์อย่างต่อเนื่องและมั่นคงในเมืองไทยต่อไปโดยมีไครสเลอร์ คอร์ปอเรชั่น ให้การสนับสนุนเงินลงทุนอย่างเต็มที่
ปัจจุบัน ไครสเลอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส มีโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานที่คอยให้บริการลูกค้าในเขตกรุงเทพอยู่ที่ถนนรัตนาธิเบศร์ และที่ช.ไครสเลอร์ นวนคร ถนนพหลโยธิน กม.ที่ 47 (เยื้อง ร.พ.นวนคร) นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังดำเนินการก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการ บนทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจถนนพหลโยธิน ใกล้สนามเป้า เขตพญาไท ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางคลังอะไหล่ขนาดใหญ่ด้วย
มร.เดวิด กล่าวเพิ่มเติมว่า "ไครสเลอร์ ได้รุกตลาดอย่างเต็มที่ และเน้นให้การสนับสนุนเมกะดีลเลอร์อย่างดีที่สุด ทั้งในด้านเตรียมความพร้อมของผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์อะไหล่แผนงานการตลาด การเงิน และการฝึกอบรม เพื่อให้เมกะดีลเลอร์ทั้ง 10 แห่ง ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ คอยให้บริการลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพและใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยที่เมกะดีลเลอร์สามารถโทรแจ้งสั่งอะไหล่ได้โดยตรงจากบริษัทฯ"
"บริษัท เชื่อมั่นว่ายานยนต์ จี๊ป และไครสเลอร์ ยังเป็นที่นิยม ผู้บริโภคยังคงให้ความไว้วางใจด้วยดีเสมอมา และขณะนี้บริษัทฯ ก็ได้เร่งสายพานการผลิตรถยนต์ในประเทศโดยมุ่งเน้นที่รถจี๊ป เชโรกี ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังผลิตประมาณเดือนละ 100-150 คัน ณ โรงงานประกอบบางชันเยนเนอรัล แอสเชมบลี เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการมีรถจี๊ปไว้ครอบครองในราคาที่แสนประหยัด และมีอะไหล่ไว้คอยบริการอย่างรวดเร็วทันใจมากยิ่งขึ้น"
"ไครสเลอร์ มุ่งมั่นที่จะลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะใช้เมืองไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกในอนาคตด้วย เนื่องจากเมืองไทยยังคงมีศักยภาพสูงในการลงทุนแม้ในช่วงที่ผ่านมาจะประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในปัจจุบันมียอดขายลดต่ำลงอย่างมาก แต่ถึงอย่างไรบริษัทฯ ก็เชื่อมั่นถึงเศรษฐกิจในประเทศไทยจะพลิกฟื้นดีขึ้นภายใน 2 ปี สำหรับช่วงเวลานี้ บริษัทฯก็คงมุ่งเน้นวางรากฐานให้มั่นคงและขยายเครือข่ายให้กว้างไกลเน้นการให้บริการและสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าเป็นสำคัญที่สุด" มร.เดวิด กล่าว
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อาคารคิวเฮ้าส์ ชั้น 14 ถนนสุขุมวิท 21 กรุงเทพฯ และยังได้จัดตั้งศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ "Chrysler Hotline" ขึ้น เพื่อเป็นอีกช่องทางการให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและผู้สนใจรถยนต์ไครสเลอร์ และจี๊ป โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอะไหล่และบริการต่าง ๆ ได้ที่หมายเลข 719-6450-1 ระหว่างเวลา 8.30-17.30 น. ในวันจันทร์-ศุกร์
รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อคุณจินตนา ดวงแก้ว โทร. 719-6446-8--จบ--