ประชาชนนิยมใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์มากขึ้น

ข่าวทั่วไป Monday October 6, 2014 11:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษาร่วมแถลงผลสำรวจพฤติกรรมและความคิดเห็นต่อการใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลนิยมเขียน อ่านแสดงความเห็นอารมณ์และความรู้สึก จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,138 คน สามารถสรุปผลได้ ดังนี้ในด้านข้อมูลทางประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 50.79 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 49.21 เป็นเพศชาย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 30.84 มีอายุเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 21 ถึง 25 ปี ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 34.97 จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ในด้านพฤติกรรมการใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์นั้น กิจกรรมที่กลุ่มตัวอย่างนิยมทำบนเครือข่ายสังคมออนไลน์สูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ เขียน/อ่านข้อความแสดงความคิดเห็น/อารมณ์/ความรู้สึก คิดเป็นร้อยละ 84.36 แสดงรูปภาพต่างๆ ที่ตนเองถ่าย คิดเป็นร้อยละ 81.28 พูดคุย (chat) คิดเป็นร้อยละ 78.73 แบ่งปันข้อความ/ภาพ/คลิปต่าง ๆ จากผู้อื่น คิดเป็นร้อยละ 75.04 และเล่นเกมออนไลน์ คิดเป็นร้อยละ 72.32 สำหรับช่วงเวลาที่กลุ่มตัวอย่างนิยมใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์สูงสุด 3 อันดับคือ ช่วงเวลาว่าง คิดเป็นร้อยละ 87.17 ช่วงก่อนเข้านอนตอนค่ำ/หลังตื่นนอนตอนเช้า คิดเป็นร้อยละ 84.09 และระหว่างการเดินทางบนพาหนะต่าง ๆ คิดเป็นร้อยละ 81.72 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 75.92 ระบุว่าระหว่างการรับประทานอาหาร และมีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 56.68 ที่ระบุว่าระหว่างการขับขี่ยานพาหนะ นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 33.13 ระบุว่าตนเองใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นระยะเวลาประมาณ 10 ถึง 20 นาทีโดยเฉลี่ยต่อหนึ่งครั้ง รองลงมาใช้บริการประมาณ 21 ถึง 30 นาทีโดยเฉลี่ยต่อหนึ่งครั้งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 26.01 ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ระบุว่าช่วงเวลาระหว่างหลังตื่นนอนตอนเช้าจนถึงก่อนเข้านอนตอนกลางคืน ตนเองเข้าใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ โดยเฉลี่ยในทุกๆ 1 ชั่วโมงซึ่งคิดเป็นร้อยละ 39.81 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 62.83 ยอมรับว่าหลังจากตื่นนอนตอนเช้า ตนเองมักเข้าใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ก่อนการทำธุระส่วนตัว (ล้างหน้า อาบน้ำ แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า) ในด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์นั้น กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งคิดว่าตนเองเป็นคนติดการใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 59.31 ขณะที่กลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 33.13 มีความคิดเห็นว่าตนเองจะรู้สึกหงุดหงิดหากไม่ได้เข้าใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ติดต่อกันเป็นเวลา 1 ถึง 2 วัน รองลงมาระบุว่าประมาณครึ่งวันหรือต่ำกว่าซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25.66 นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างประมาณสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 66.52 มีความคิดเห็นว่าการใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ในปัจจุบันไม่ส่งผลให้ความใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัวลดลง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 61.95 มีความคิดเห็นว่าการใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ในปัจจุบันไม่ส่งผลให้ตนเองมีโอกาสพบปะเพื่อนฝูงน้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ระบุว่าการใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์เคยส่งผลให้ตนเองเข้าเรียน/เข้างานสายเป็นบางครั้งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 45.34 ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 59.4 มีความคิดเห็นว่าการใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ในปัจจุบันไม่ส่งผลให้ตนเองมีสมาธิในการเรียน/การทำงานลดลง และกลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 54.22 ระบุว่าการใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ในปัจจุบันไม่ส่งผลให้ตนเองมีสมาธิในการทำกิจกรรมทั่วไป เช่น อ่านหนังสือ ขับรถ ชมภาพยนตร์ น้อยลง อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ระบุว่าการใช้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ในปัจจุบันส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเพิ่มมากขึ้นซึ่งคิดเป็นร้อยละ 49.65

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ