กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--IR PLUS
VPO ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ ราย ใหญ่ เตรียมเข้า ตลาด SET เสนอขายหุ้นไอพีโอ 236 ล้านหุ้น “กฤษ ดา ชวนะนันท์” แม่ทัพใหญ่ มั่น ใจ ศักยภาพธุรกิจแกร่ง จากกำลังการผลิตสูง เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และความเชี่ยวชาญที่บริษัทมี อีกครั้งความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบเติบโตขึ้นอย่างต่อ เนื่อง จะสามารถสร้างการเติบโตในอนาคตได้อย่างมาก ด้าน “เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” และ “เดอะ ควอนท์ กรุ๊ป” ประสานเสียง VPO พื้นฐานแน่น เชื่อการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนลท. คาด เสนอขายหุ้นและเข้าซื้อขายใน SET ภายในพ.ย. นี้
นายกฤษดา ชวนะนันท์กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ VPO ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ ผลพลอยได้ รวมทั้งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่ผลิตได้จากของเสียหรือสิ่งเหลือใช้ จากกระบวนการผลิตน้ำมันปาล์มดิบกล่าวว่า ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่าง ต่อเนื่อง ทำให้บริษัทขยายกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ 2 แห่ง ที่จังหวัดชุมพร มีกำลังการผลิตรวม 180 ตันปาล์มสดต่อ ชั่วโมง ซึ่งเป็นโรงงานที่มีกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งใน ประเทศไทย
ด้านผลประกอบการ ปี 2556บริษัท มีรายได้รวม 3,239 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 63 จากปี 2555 เนื่องจากบริษัทมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันปาล์ม ดิบเพิ่มขึ้น และบริษัทมีต้นทุนการผลิตลดลงจากการลดลงของผลปาล์มทะลาย ในขณะที่งวด 6 เดือนปี 2557 บริษัทมีราย ได้รวม 1,445 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 173 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้รวมของบริษัทฯ แบ่งเป็น รายได้จากการขายน้ำมันปาล์มดิบ 1,151.41 ล้านบาท คิด เป็นสัดส่วน 79.65% เป็นรายได้จากในประเทศ 453.52 ล้านบาท ส่งออกต่างประเทศ 697.89 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายเมล็ดในปาล์มอยู่ที่ 230.79 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15.97% รายได้จากการขายไฟฟ้า 43.44 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.01% และรายได้ จากผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ 19.86 ล้านบาท คิด เป็นสัดส่วน 1.37%
อย่างไรก็ตามคาดว่าผล ประกอบการของปี 2557 จะเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกเล็กน้อย และคาดว่าผลประกอบการในปี 2558 จะเติบโตขึ้นประมาณ 30-40 % จากปี 2557
“เราเป็นผู้เชี่ยว ชาญในการผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยได้ การเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ จะเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจและการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต โดยบริษัทได้แต่งตั้งบริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท เดอะ ควอนท์ กรุ๊ป จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ในครั้งนี้”
นายพากพูม วัลลิสุต ประธานกรรมการ บริษัท เดอะ ควอนท์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวถึง ภาพรวมตลาดน้ำมันปาล์มดิบและเมล็ดในปาล์ม มีแนวโน้มการเติบโตสูง เนื่องจากน้ำมันปาล์มเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับการบริโภค น้ำมันพืช และมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นทุกปี จากการเติบโตของประชากรโลก และการบริโภคน้ำมันพืชต่อคนต่อปีที่สูงขึ้น ทั้งในแง่ของการบริโภคอาหารและใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยเฉพาะความต้องการบริโภคน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวด เร็ว เมื่อเทียบกับการบริโภคน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานได้ประกาศนโยบายปรับเปลี่ยนน้ำมันไบโอดีเซลในช่วง ต้นปีที่ผ่านมา จากไบโอดีเซลบี5 เป็นน้ำมันไบโอดีเซล บี 7 ซึ่งมีส่วนผลิตจากน้ำมันปาล์มดิบในสัดส่วนมากกว่า ส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบในประเทศเพิ่มขึ้นอย่าง มาก และถือเป็นการลดสต๊อกคงค้างของน้ำมันปาล์มดิบที่มีแนวโน้มเพิ่ม สูงขึ้น เป็นปัจจัยสนับสนุนธุรกิจบริษัทฯ ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ของประเทศ
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) หมวด ธุรกิจการเกษตร มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 800 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 800 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยบริษัทฯ จะเสนอขายหุ้น IPOจำนวนไม่เกิน 236 ล้าน หุ้น คิด เป็นร้อยละ 25.11 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ แบ่งเป็นหุ้นที่ออกใหม่จำนวนไม่เกิน 140 ล้านหุ้น และหุ้นที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนไม่เกิน 96 ล้านหุ้น โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน ในครั้งนี้ จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ ได้ลงทุนขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตในระยะเวลา 3 – 5 ปี ข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว
นายยุทธ วรฉัตรธาร ประธานคณะกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำในการจัดจำหน่าย หุ้น IPO ของ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทฯ มีความพร้อมในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยจุดเด่นคือ บริษัทฯ มีประสบการณ์และการดำเนินงานในธุรกิจนี้มากว่า 20 ปี และเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบ ที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ส่งผลให้ในช่วงที่ฤดูผลปาล์มทะลายออกสู่ตลาดมาก เกษตรกรและผู้ประกอบกิจการจุดรับซื้อผลปาล์มทะลายสามารถนำผล ปาล์มทะลายมาจำหน่ายให้กับบริษัทได้ทันที ทำให้ปัญหาการต่อคิวที่นานและการสูญเสียปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ ระหว่างการรอคิว ลดน้อยลง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเป็นเพียงผู้ผลิตไม่กี่รายที่สามารถส่งออก น้ำมันปาล์มดิบไป ยังต่างประเทศได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่สำคัญ บริษัทฯ ได้มีการนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ทันสมัย ทำให้ได้อัตราการให้น้ำมันจากทะลายที่สูงและมีอัตราการสูญเสีย น้ำมันจากการผลิตที่น้อย นอกจากนี้ จากการที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นหนึ่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะส่งผลดีให้กับบริษัทฯ เนื่องจากจะช่วยให้ภาวะการเก็งกำไรในราคาขายน้ำมันปาล์มดิบในประเทศลดน้อยลง และเพิ่มโอกาสในการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบของประเทศไทย
สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับ 1Filing ของบริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทฯ ต่อประชาชนทั่วไปครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเดือน พฤศจิกายน 2557 และมีแผนการ Roadshow 4 จังหวัด ที่กรุงเทพฯ โคราช หาดใหญ่ และเชียงใหม่ ในช่วงกลางเดือนตุลาคม