กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--ซีเค คอนเนคชั่น
โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว หนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจจากนานาชาติให้เป็นอีกทางเลือกของการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ด้วยการรักษาแบบบูรณาการที่ผสมผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันทันสมัยกับเทคนิคการแพทย์แผนจีน ที่ทำให้การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและให้ผลข้างเคียงกับผู้ป่วยน้อยที่สุด ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้ให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งมาเป็นเวลา 9 ปีแล้ว
มร.หวาง หวาย จง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว กล่าวว่า “โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว เป็นโรงพยาบาลในเครือ บริษัท ป๋อไอ้ เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มลงทุนด้านการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และติดหนึ่งในร้อยกลุ่มการลงทุนด้านการแพทย์ที่แข็งแกร่งของโลก ปัจจุบันโรงพยาบาลได้เปิดศูนย์บริการในคำปรึกษาในประเทศแถบเอเชียซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อาทิ ประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศกัมพูชา และ ประเทศมาเลเซีย ด้วยเล็งเห็นว่า ประเทศเหล่านี้มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกับประเทศจีน รวมทั้งการสำรวจทางการตลาดของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวยังพบว่า คนในกลุ่มประเทศอาเซียนมีความต้องการในการรักษาโรคร้ายอย่างโรคมะเร็งในอัตราที่ค่อนข้างสูง ในอนาคตทางโรงพยาบาลยังมีแนวโน้มที่จะขยายสาขาไปในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพราะปัจจัยทางเศรษฐกิจ และความต้องการจากผลสำรวจที่กล่าวข้างต้น เอื้ออำนวยให้ทางโรงพยาบาลคิดวางแผนที่จะนำเทคโนโลยี และวิทยาการทางการรักษาโรคมะเร็งที่เป็นเอกลักษณ์เข้าไปในประเทศเหล่านั้น ซึ่งประเทศไทยก็ถือเป็นประเทศหนึ่งที่ทางโรงพยาบาลสนใจจะเข้าไปลงทุนเปิดสาขาเช่นกัน”
นายแพทย์ เผิง เสี่ยว ชื่อ หัวหน้าแพทย์แผนกโรคมะเร็ง โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคในการรักษาโรคมะเร็งของโรงพยาบาลว่า “ทีมแพทย์ของทางโรงพยาบาลสมัยใหม่กว่างโจวมีแนวคิดและเทคนิคการรักษาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ คือการรักษาแบบบูรณาการที่นำนวัตกรรม เทคโนโลยี และเทคนิคการรักษาหลายรูปแบบมาผสมผสานให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย โดยทีมแพทย์ผู้เชียวชาญเฉพาะด้านของโรงพยาบาลจะร่วมกันวินิฉัยก่อนว่าผู้ป่วยมีความจำเป็นที่จะได้รับการรักษาในรูปแบบใดบ้าง อาทิเช่น การอุดหลอดเลือดเฉพาะจุด การฝังแร่ไอโอดีน การใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด และ การใช้ความเย็น เป็นต้น และที่สำคัญยังใช้เทคนิคการรักษาแบบเจาะจงเซลล์มะเร็งเพื่อให้บาดแผลเล็ก หลังการรักษาผู้ป่วยจึงไม่มีอาการเจ็บปวดมากและแทบไม่เกิดผลข้างเคียงอย่างวิธีการรักษาทั่วไป”
จากเทคนิคการรักษาสมัยใหม่ของโรงพยาบาลทำให้มีผู้ป่วยโรคมะเร็งจากหลายประเทศให้ความไว้ใจเข้ารักษา หนึ่งในนั้นมีผู้ป่วยชาวไทยที่เป็นมะเร็งที่ปอดและเรื้อรังไปถึงสมอง นายรุ่งรดิส สิงห์ศรี ผู้จัดการในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เริ่มแรกผมมีอาการเหนื่อยหอบเลยไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งที่ปอดจึงได้ลองเข้าไปปรึกษาที่ศูนย์บริการของโรงพยาบาลสมัยใหม่กว่างโจวในกรุงเทพฯจากเพื่อนแนะนำ ต่อมาได้ตัดสินใจเข้ารักษากับทางโรงพยาบาลเพราะทางโรงพยาบาลให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาอย่างละเอียดและน่าเชื่อถือ เมื่อมาถึงที่โรงพยาบาลในประเทศจีน หมอก็ตรวจพบอีกว่า ผมเป็นมะเร็งที่สมองเนื่องจากเซลล์มะเร็งลามมาจากปอดหลังจากที่ตัดชิ้นเนื้อตรวจครั้งแรกที่โรงพยาบาลในประเทศไทย เพราะปกติการตัดชิ้นเนื้อต้องระบุแผนการรักษาอย่างต่อเนื่องภายใน 20 วัน มิฉะนั้นก็อาจเกิดผลข้างเคียงอย่างผมได้ ในส่วนที่ผมรักษามะเร็งที่ปอดหมอเขาก็ใช้การทำคีโมเฉพาะจุด และใช้ความเย็น ส่วนที่สมองใช้วิธีการฉายแสง ซึ่งตั้งแต่วันที่เข้ารักษาที่นี่จนถึงตอนนี้ก็เป็นระยะเวลา 1 เดือนกว่า อาการต่างๆที่เคยเป็นก็ลดน้อยลง ส่วนเรื่องของสภาพร่างกายโดยรวมก็รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมมาก และผมก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือมีผลข้างเคียงจากการรักษาแต่อย่างใด ผมอยากฝากถึงคนที่กำลังเผชิญโรคร้ายนี้อยู่ว่า การจะตัดสินใจเลือกรักษาที่สถานพยาบาลไหนก็แล้วแต่ ควรศึกษาข้อมูลของสถานที่นั้นๆให้ละเอียดถึงวิธีการรักษาที่มีขั้นตอนและสามารถให้คำแนะนำกับเราได้อย่างชัดเจน ซึ่งครั้งนี้ที่ผมได้ตัดสินใจมารักษากับที่โรงพยาบาลสมัยใหม่กว่างโจวก็ถือว่าไม่ผิดหวังจริงๆครับ”
แม้โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่องค์กรก็ยังไม่ลืมการตอบแทนสังคม ทางองค์กรให้ความสำคัญในการร่วมและจัดกิจกรรมการกุศลมาตลอด โดยครั้งนี้เนื่องในโอกาสครบรอบ 9 ปีของ โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ทางโรงพยาบาลจึงมีโครงการมอบของขวัญพิเศษให้กับคนไทยก่อนเป็นประเทศแรกในแถบเอเชียโดยให้สิทธิสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแรกจำนวน 10 ท่าน เข้ารับการรักษาฟรีกับทางโรงพยาบาล เพื่อช่วยเหลือคนไทยให้มีรอยยิ้มพร้อมต่อสู้กับโรคมะเร็ง