กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม
กล่าวได้ว่าตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ชื่อ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริ์ฐ อยู่คู่กับวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์มาโดยตลอดเป็นที่ยอมรับว่าการกลับมาในฐานะผู้สร้าง ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายภาพยนตร์ไทยในปี 2544 เป็นต้นมาคือ ย่างก้าวสำคัญที่นำมาซึ่งทิศทางใหม่ของภาพยนตร์ไทยของสหมงคลฟิล์มไม่ว่าจะเป็น ข้างหลังภาพ, ขวัญเรียม ก่อนที่จะประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลกับ สุริโยไท, ปอบหวีดสยอง, 7 ประจัญบาน, มนต์เพลงลูกทุ่ง เอฟเอ็ม, อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต, เฮี้ยน, เดอะเลตเตอร์ จดหมายรัก, คนเห็นผี 1-2, บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม, โหมโรง ฯลฯ สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยการกวาดรายได้มากกว่า 50 ล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "องค์บาก" ภาพยนตร์ไทยที่ไม่เพียงประสบความสำเร็จด้วยตัวเลขมากกว่า 120 ล้านบาท (จากการฉายเฉพาะในกรุงเทพ) แต่ยังเป็นภาพยนตร์ไทยที่กล่าวได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในตลาดภาพยนตร์ของโลกอย่างแท้จริง
ในขณะเดียวกันการสร้างความหลากหลายให้กับแนวทางการสร้างภาพยนตร์ก็เป็นหัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ นอกจากภาพยนตร์ในแนวกระแสหลัก สหมงคลฟิล์มเปิดโอกาสให้ผู้กำกับรุ่นใหม่ได้มีโอกาสสร้างหนังทางเลือกใหม่ในแนวทางของตนเอง อาทิ สยิว, Fake โกหกทั้งเพ, คืนบาปพรหมพิราม, นายอโศกกับนางสาวเพลินจิต, โอเคเบตง, เอ็กซ์แมน แฟนพันธุ์เอ็กซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ "คนผีปีศาจ" ในโครงการยักษ์เล็กที่กำกับโดย "มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล" ผู้กำกับที่มีอายุน้อยที่สุด
สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล เตรียมพร้อมมุ่งหน้าในการสร้าง ผลิต และจัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยเพื่อรองรับกระแสการตื่นตัวภาพยนตร์ไทยทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยปริมาณและความหลากหลายของแนวทางภาพยนตร์ไทยที่ถูกสร้างขึ้น ซึ่งมีตั้งแต่ภาพยนตร์ที่หวังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในระดับบล็อกบลัสเตอร์ไปจนถึงภาพยนตร์นอกกระแสที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่สำหรับภาพยนตร์ไทยภายใต้การทำงานของบรรดาผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ทีมเขียนบท นักแสดงที่มีชื่อเสียงตลอดจนบริษัทโปรดักชั่นผู้ผลิตภาพยนตร์ไทยที่ได้รับการยอมรับในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ไทยในระดับคุณภาพมากมาย อาทิ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล, นนทรีย์ นิมิบุตร, อ๊อกไซด์ แปง, บัณฑิต ฤทธิ์ถกล, ปรัชญา ปิ่นแก้ว, ธนิตย์ จิตนุกูล, มานพ อุดมเดช, พันนา ฤทธิไกร, อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์, บัณฑิต ทองดี, เฉลิม วงค์พิมพ์, ดงเดช จาตุรันต์รัศมี (สยิว), ธนกร พงษ์สุวรรณ (FAKE) ฯลฯ ด้วยจำนวนการผลิตภาพยนตร์ไทยระดับคุณภาพด้วยจำนวนที่มากที่สุดในวงการภาพยนตร์
สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ประเดิมปี 2548 กับ "เอ๋อเหรอ" ภาพยนตร์ดราม่าอบอุ่นเน้นมิตรภาพของเด็กพิเศษ (ดาวน์ซินโดรม) ตามด้วยแอ็คชั่นตีแผ่อาชญากรรมด้านมืดที่เกิดขึ้นในสังคมไทยกับ "ซุ้มมือปืน" บ่มจากความคิดของสมานจิตต์ บางสพาน ที่ใช้เวลากว่า 40 ปี, "แท็กซี่ ทน.รัก" พลิกการแสดงในชีวิตของ หม่ำ จกม๊ก, นุ่น วรนุช วงษ์สวรรค์ เขียนบทและกำกับโดย คงเดช จาตุรัตน์รัศมี, การกลับมาของแอ็คชั่นคมเมดี้ภาคต่อเรื่อง "7 ประจัญบาน 2", โปรเจ็กต์แอ็คชั่นแฟนตาวีฟอร์มยักษ์ "โอปปาติกะ" ผลงานการกำกับของ ธนกร พงษ์สุวรรณ ที่รวมสุดยอดนักแสดงชั้นนำอย่าง สมชาย เข็มกลัด, เร แมคโดนัลด์, ชาคริต แย้มนาม, อธิป นานา, เข็มอัปสร สิริสุขขะ, นิรุตติ์ ศิริจรรยา และ พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง ไว้ในเรื่องเดียวกัน, มนุษย์เหล็กไหล ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่นซูเปอร์ฮีโร่ของไทยโดยการกำกับของ บัณฑิต ทองดี ฯลฯ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจับตาดูให้ดีกับการประกาศศักดิ์ศรีความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ไทยให้คนทั้งโลกได้รู้จักกับ "ต้มยำกุ้ง" โปรเจ็คต์ภาพยนตร์ที่ทุ่มทุนสร้างสูงถึง 200 ล้านบาท ที่มาเพื่อเปิดตลาดหนังไทยในตลาดต่างประเทศให้สมภาคภูมิ ด้วยเสียงตอบรับจากตลาดภาพยนตร์ของโลกจากนานาประเทศตั้งแต่ยังไม่เปิดกล้อง
เหล่านี้คือ อีกย่างก้าวหนึ่งของภาพยนตร์ไทยปี 2548 ของ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล--จบ--