กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
ในแต่ละวัน มีเด็กมากกว่า 2,000 คนทั่วโลกที่ต้องเสียชีวิตด้วยโรคที่ป้องกันได้ไม่ยาก เช่น โรคท้องร่วง และนั่นหมายถึงว่า ทุกๆ หนึ่งนาทีจะมีเด็กเสียชีวิตหนึ่งคน นี่ถือเป็นวิกฤตระดับโลก ทั้งๆ ที่การล้างมืออย่างถูกวิธี สามารถรักษาชีวิตของเด็กเหล่านี้ได้ เพราะการล้างมือด้วยสบู่ช่วยตัดวงจรการเติบโตและยับยั้งการรับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายอันเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดโรคท้องร่วงและโรคติดเชื้ออีกหลายชนิด
ข้อมูลของยูนิเซฟ และองค์การอนามัยโลก (เรื่อง “Diarrhoea: Why children are still dying and what can be done” ปี 2552) ระบุว่า โรคท้องร่วงเป็นสาเหตุการตายอันดับ 2 ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบในประเทศกำลังพัฒนา โดยในแต่ละปี มีเด็กเล็กประมาณ 1.5 ล้านคน เสียชีวิตเพราะโรคท้องร่วง
ศาสตราจารย์จอห์น ออกซ์ฟอร์ด ประธาน Global Hygiene Council และอาจารย์พิเศษภาควิชาไวรัสวิทยา วิทยาลัยการแพทย์และทันตกรรมควีนส์แมรี่ ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “ในแต่ละปี อัตราการเสียชีวิตของเด็กจากโรคติดเชื้อ เช่น โรคท้องร่วง นั้นยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สูง และเป็นวิกฤติระดับโลกที่ทุกคนต้องให้ความสนใจ อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือ โรคท้องร่วงเป็นโรคที่ป้องกันได้ และการหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ คือ วิธีการที่ง่ายที่สุดที่ทุกคนทำได้เพื่อปกป้องทั้งตนเองและคนในครอบครัว”
รองศาสตราจารย์นายแพทย์อนุชา อภิสารธนรักษ์ สมาชิก Global Hygiene Council ประจำประเทศไทย และอาจารย์ประจำหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “มือเป็นพาหะนำเชื้อโรคและเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายที่สุด เพราะเมื่อมือสัมผัสกับเชื้อที่อยู่ในข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ การจาม การเข้าห้องน้ำ และใช้มือนั้นสัมผัสอาหาร ปาก ตา ก็สามารถนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ เชื้อเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต เช่น โรคท้องร่วง โรคมือเท้าปาก และโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งแพร่ระบาดอย่างมากในประเทศไทย
“เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่คนไทยรวมทั้งคนทั่วโลกควรตระหนักถึงความสำคัญของสุขอนามัยมืออย่างถูกต้อง อันได้แก่ การล้างมือเป็นประจำด้วยน้ำและสบู่ เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายทางมือสัมผัสซึ่งเป็นวิธีป้องกันโรคที่ง่ายและประหยัดที่สุด” รศ. นพ. อนุชากล่าว
การล้างมือที่ถูกต้อง สามารถรักษาชีวิตคนได้มากกว่าการฉีดวัคซีนหรือการใช้ยารักษา และยังเป็นวิธีที่ง่าย ประหยัดที่สุดซึ่งทุกคนสามารถทำได้ และควรทำให้เป็นประจำ องค์การสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้วันที่ 15 ตุลาคมของทุกปี เป็น “วันล้างมือโลก” หรือ Global Hand Washing Day เพื่อให้ทุกคนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ตระหนักถึงความสำคัญของการล้างมือ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้หันมาล้างมืออย่างถูกต้องจนเป็นนิสัย
ในการล้างมืออย่างถูกต้อง ควรใช้สบู่กับน้ำเปล่า โดยสามารถเลือกสบู่ที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคมากขึ้นอีก และควรล้างมือเสมอก่อนรับประทานอาหาร หลังจากใช้ห้องน้ำ หลังจากเล่น หลังจากสัมผัสกับผู้ป่วย หลังการจามหรือไอ และหลังจากเล่นหรือสัมผัสกับสัตว์ต่างๆ
ส่วนขั้นตอนการล้างมืออย่างถูกวิธี คือ ใช้น้ำล้างมือให้เปียกแล้วปิดน้ำเสียก่อน เทสบู่ลงบนฝ่ามือพอสมควร แล้วใช้ฝ่ามือถูกัน ถูนิ้วและซอกนิ้ว ถูนิ้วบนฝ่ามือให้สะอาด ถูหลังมือและซอกนิ้ว ถูนิ้วหัวแม่มือให้ทั่ว แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดมือให้แห้ง
การรณรงค์ระดับโลกที่ริเริ่มโดยองค์การสหประชาชาติ มีความแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี โดยมีหน่วยงานและองค์การต่างๆ ทั่วโลกได้ร่วมรณรงค์ เช่น แคมเปญ “Give Life a Hand” ของเดทตอล ซึ่งเน้นการให้ความรู้แก่เด็กๆ เพราะการปลูกฝังการล้างมืออย่างถูกต้องตั้งแต่เด็ก จะทำให้สุขนิสัยนี้ติดตัวไปจนโต และป้องกันการติดเชื้อโรคต่างๆ มากมายได้ตลอดทั้งชีวิต
สำหรับในปีนี้ เดทตอลได้ต่อยอดแคมเปญรณรงค์การล้างมือที่ทำอย่างต่อเนื่องมาหลายปีให้เป็นแคมเปญระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด โดยเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไป ถ่ายภาพมือที่ล้างสะอาดแล้วใส่แฮชแท็ค #handfie แชร์บน Facebook หรือ Instagram หรือส่งภาพทาง www.givelifeahand.com/th ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 20 ตุลาคม 2557 ทุกๆ หนึ่งภาพถ่าย หรือกดไลค์ หรือแชร์ เดทตอลจะนับจำนวนทั้งหมดแล้วแปลงเป็นจำนวนเด็กที่เดทตอลจะเข้าไปให้ความรู้และสร้างนิสัยในการล้างมืออย่างถูกวิธี เพื่อเพิ่มจำนวนเด็กที่จะรอดชีวิตจากโรคติดเชื้อที่ป้องกันได้ โดยจะเริ่มแคมเปญเพื่อให้ความรู้แก่เด็กๆเรื่องการล้างมือในโรงเรียนต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่ในประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน เม็กซิโก อาร์เจนตินา สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ จนถึงประเทศไทย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/dettolthai