กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--เอ็น.ดี.รับเบอร์
บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางใน และยางนอก สำหรับรถจักรยานยนต์คุณภาพ แบรนด์ N.D. งัดแผนสู้สงครามราคาสินค้าต่างประเทศไม่ได้มาตรฐาน ออกหนังโฆษณา “เพราะชีวิตคือการตัดสินใจ” และแคมเปญ CSR เร่งสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค รู้จัก แบรนด์ และหันมาใส่ใจคุณภาพ มาตรฐานผลิตภัณฑ์มากกว่า การเลือกใช้สินค้าจากราคา พร้อมเตรียมแผนระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ หลังแปรสภาพเป็นมหาชน เพื่อขยายธุรกิจ พัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า จากรายงานผลการสำรวจ พฤติกรรมของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ที่บริษัทจัดทำขึ้น พบว่าผู้ใช้รถจักรยานยนต์ กลุ่มคนทำงาน พ่อค้าแม่ค้า และนักศึกษา มากกว่า 90% ไม่รู้จักแบรนด์สินค้า และคุณภาพของยางรถจักรยานยนต์ การเลือกใช้สินค้าจะขึ้นอยู่กับ ผู้จำหน่าย ช่าง และราคา เป็นหลัก ซึ่งพบว่ามีสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ที่แข่งขันด้านราคาจากต่างประเทศ หลุดเข้ามาตีตลาดแถบพื้นที่ชายแดน และภาคกลางบางส่วน หากเปิดตลาดเสรีการค้าเป็น “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน : AEC” สินค้าไม่ได้มาตรฐาน อาจเข้ามามากขึ้น ส่งผลกระทบด้านสงครามราคา และจะส่งผลด้านความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคตามมา
สำหรับกลยุทธ์ในการป้องกัน สินค้าไม่ได้มาตรฐาน จากต่างประเทศ นอกจากบริษัทจะเน้นทำการตลาด Below the Line ในรูปแบบของการจัดกิจกรรมตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค ทุกกลุ่มทั้งตัวแทนจำหน่าย ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ และผู้บริโภคแล้ว ล่าสุดได้เปิดตัว ภาพยนตร์โฆษณา ในชื่อชุด “เพราะชีวิตคือการตัดสินใจ” ความยาว 3 นาที โดยมีเนื้อหาเพื่อกระตุ้นเตือน ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ตระหนักถึงการเลือกใช้สินค้าที่มีคุณภาพ ไม่ใช่ยึดติดกับคำว่า ”อะไรก็ได้” ซึ่งเป็นความเคยชิน จนมองข้ามถึงความปลอดภัย และผลทีตามมาคือ อุบัติเหตุ
พร้อมจัดกิจกรรม CSR ของบริษัท ในโครงการ “ล้านวิว ล้านใจ ลดอุบัติภัย บนท้องถนน” ด้วยการปล่อยคลิปภาพยนตร์โฆษณา ไปในช่องทาง Youtube และ Social Media ให้ประชาชนช่วยกันแชร์ เพื่อให้เกิดการตื่นตัว ในเรื่องความปลอดภัยให้มากขึ้น ตั้งเป้าหมายให้มีผู้ชมภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าวให้ได้ 1 ล้านวิว ภายในระยะเวลา 10 วัน ทางบริษัทฯ ได้เตรียมส่งมอบรถจักรยานยนต์กู้ชีพ (ที่มีอุปกรณ์กู้ชีพเบื้องต้น เช่นถังออกซิเจน เครื่องช่วยหายใจ ชุดห้ามเลือด เฝือกดามคอ ฯลฯ) จำนวน 5 คัน เพื่อมอบให้กับมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคมโดยรวม
นายชัยสิทธิ์ กล่าวต่อว่า มูลค่าตลาดรวมของยางใน และยางนอก สำหรับรถจักรยานยนต์ในประเทศ มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี ในปี 2556 ที่ผ่านมา เอ็น.ดี.รับเบอร์ มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 800 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดภายในประเทศ 50% และตลาดต่างประเทศ 50% อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และยุโรปบางส่วน ในส่วนของตลาดภายในประเทศยอดขายประมาณ 80% จะมาจากกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด และกรุงเทพฯ 20% นอกจากนี้ยังได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง YAMAHA ให้ผลิตสินค้า ภายใต้เครื่องหมาย YAMAHA Y-TEQ ในกลุ่มยางรถมอเตอร์ไซค์อีกด้วย
จุดเด่นของ สินค้าในแบรนด์ เอ็น.ดี.รับเบอร์ อยู่ที่การใส่ใจในเรื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ การคัดสรรวัตถุดิบ เพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพของยาง เราเชื่อว่าหากวัตถุดิบมีคุณภาพดีแล้ว ยางรถจักรยานยนต์ที่ผลิตได้ก็จะมีคุณภาพที่ดีด้วยเช่นกันในกระบวนการผลิตนั้นเราใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ควบคุมคุณภาพและตรวจสอบมาตรฐานตลอดทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นการออกผ้าใบด้วยกระบวนการอันทันสมัยและผู้ชำนาญการคอยควบคุมดูแลอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันโรงงานผลิตเอ็น.ดี.รับเบอร์ ได้ผ่านการรับรองคุณภาพสินค้าจากหลายสถาบันทั้งใน และต่างประเทศ อาทิ มอก. ,SIRIM ,E-Mark มีกำลังการผลิต ยางนอก 2,500,000 เส้น/ปี และยางใน 7,000,000 เส้น/ปี
ทั้งนี้ “หลังจากบริษัทฯ ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนแล้ว โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ได้มีแผนจะระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ของการผลิตยางรถจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพ และเป้าหมายสำคัญของการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็เพื่อความโปรงใส่ ในการทำงาน ให้เราก้าวข้ามคำว่าธุรกิจครอบครัว ไปเป็นบริษัทที่ประชาชนให้ความเชื่อถือ เพราะมั่นใจว่าภายใน 3 ปี แบรนด์ N.D.Rubber จะเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยในการผลิตยางรถจักรยานยนต์คุณภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะฉะนั้นความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ”