เอสเอ็มอีแบงก์โชว์ผลงานไตรมาส 3/2557 มีกำไรสุทธิ 157 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 15, 2014 11:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง เอสเอ็มอีแบงก์ พลิกฟื้นสถานะปี 57 บริหารจัดการมีกำไรไตรมาสสาม 157 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกขาดทุน 41 ล้านบาท ส่งผลให้ผลงาน 9 เดือนกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท เร่งปรับกระบวนการอำนวยสินเชื่อรายย่อยให้รวดเร็ว สร้างมาตรฐานการให้บริการใหม่ พร้อมเดินหน้าแก้ NPL อย่างต่อเนื่อง นางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยผลการดำเนินงาน นับตั้งแต่คณะกรรมการธนาคารชุดใหม่ได้เข้ามาบริหารธนาคารเดือนส.ค. 57 ได้นำเสนอแผนฟื้นฟูธนาคาร โดยเน้น 4 เรื่องหลัก คือ 1. การขยายสินเชื่อให้เป็นไปตามภารกิจ ในวงเงินต่ำกว่า 15 ล้านบาท โดยมีการปรับปรุงกระบวนการอนุมัติสินเชื่อ อำนวยความสะดวกให้ผู้มาขอสินเชื่อทั้งด้านการประเมินราคาหลักประกัน รวมถึงการจัดทำเอกสารต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้การอนุมัติสินเชื่อทำได้รวดเร็ว พร้อมบริการให้คำปรึกษาแนะนำต่างๆ ภายหลังจากอนุมัติสินเชื่อแล้ว โดยได้ดำเนินการไปแล้วมากพอสมควร แต่ไม่ทิ้งเรื่องการดูแลความเสี่ยง 2. การบริหารจัดการลูกหนี้ NPL เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำควบคู่ไปกับการเร่งขยายสินเชื่อตามพันธกิจ ในขณะนี้ธนาคารได้ตั้งสำรองครบถ้วนแล้ว รวมทั้งธนาคารยังมีสำรองส่วนเกินอีก 1,369 ล้านบาท NPL เหล่านี้จึงมิได้ก่อภาระทางการเงินเพิ่มให้แก่ธนาคาร เพียงแต่ทำให้ธนาคารเสียโอกาสในเรื่องดอกเบี้ยรับ และไม่สามารถเปลี่ยนลูกหนี้กลับมาเป็นเงินสดเพื่อใช้ขยายสินเชื่อต่อได้อีก รวมถึงธนาคารสิ้นเปลืองในการจัดหาพนักงานมาดูแลลูกหนี้ NPL ที่ยังค้างอยู่ 3. การบริหารจัดการสภาพคล่อง ธนาคารมีแนวทางเพิ่มระยะเวลาของเงินฝากให้ยาวขึ้น แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศและความเชื่อมั่นที่สาธารณชนมีต่อธนาคาร 4. การบริหารจัดการบุคลากร ธนาคารพยายามจัดสรรพนักงานจากด้านสนับสนุนให้มาอยู่ด้านหารายได้ หรือด้านอื่นๆ ที่จำเป็นเชื่อมโยงกับงานด้านสินเชื่อของธนาคาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้า ประธานกรรมการเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย. 57 ที่ผ่านมา จากความร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานธนาคาร ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของธนาคารดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนี้ Ÿ ด้าน NPL ณ สิ้นก.ย. 57 จำนวน 33,850 ล้านบาท (คิดเป็น 39% ของสินเชื่อรวม) เปรียบเทียบกับ มิ.ย.57 จำนวน 34,907 ล้านบาท (คิดเป็น 40% ของสินเชื่อรวม) หรือลดลง 1,057 ล้านบาท Ÿ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2557 มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรอง 1,099 ล้านบาท และเมื่อหักสำรองส่งผลให้ธนาคารมีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3 ( กค.-กย.57) มีกำไรสุทธิ 157 ล้านบาท จากในช่วงครึ่งปีแรก( มค.- มิย.57) ขาดทุน 41 ล้านบาท ทั้งนี้กำไรดังกล่าว เนื่องจากภาระการตั้งสำรองลดลง เพราะธนาคารสามารถป้องกันลูกหนี้ที่มีสถานะจัดชั้นปกติไม่ให้ตกชั้นเป็น NPL และสามารถแก้ไขหนี้ในส่วนที่เป็น NPL ให้กลับมาเป็นลูกหนี้ปกติ จากการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ของธนาคารเพิ่มขึ้นจาก 7.07% ณ มิ.ย. 57 เป็น 7.54% ณ ก.ย.57 Ÿ สินเชื่อคงค้าง ณ ก.ย.57 เท่ากับ 86,099 ล้านบาท ลดลง 2,000 ล้านบาท จาก มิ.ย. 57 ที่มีจำนวน 88,095 ล้านบาท สาเหตุเกิดจากการรับชำระหนี้และลูกหนี้ของธนาคารที่มีวงเงินขนาดใหญ่และแข็งแรงแล้วได้ปิดบัญชีและ Refinance ไปสถาบันการเงินอื่น ขณะเดียวกันแม้ธนาคารจะได้ลูกหนี้ในการปล่อยสินเชื่อใหม่มาจำนวนหนึ่ง ก็ยังไม่สามารถทดแทนวงเงินดังกล่าว อีกทั้ง ธนาคารอยู่ระหว่างการปรับกระบวนการอำนวยสินเชื่อใหม่โดยเน้นการปล่อยสินเชื่อรายย่อยวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท ดังนั้น จำนวนรายลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น แต่ยอดวงเงินสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นได้ไม่มาก อย่างไรก็ตาม จากการปรับนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เน้นภารกิจหลักการปล่อยสินเชื่อรายย่อย ทำให้ในไตรมาส 3 อัตราส่วนยอดเบิกจ่ายสินเชื่อวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท ต่อวงเงินเกิน 15 ล้านบาท มีสัดส่วน 66 % ต่อ 34% เทียบกับครึ่งปีแรก มีสัดส่วน 53% ต่อ 47 % นอกจากนี้ คณะกรรมการชุดใหม่ เน้นเรื่องความโปร่งใสและธรรมาภิบาล โดยมีกระบวนการสอบทานและการควบคุม โดยเฉพาะการปรับปรุงกระบวนการสินเชื่อ ให้คานอำนาจระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดและเจ้าหน้าที่ด้านวิเคราะห์สินเชื่อ นอกจากนั้น การเน้นปล่อยสินเชื่อรายย่อยไม่เกิน 15 ล้านบาทตามภารกิจของธนาคาร เป็นการจำกัดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายจากการปล่อยกู้รายใหญ่ และเชื่อว่าเมื่อนำระบบนี้มาใช้แล้ว จะช่วยให้ธนาคารมีภูมิคุ้มกันแม้สภาวะแวดล้อมภายนอกจะเปลี่ยนไปในอนาคต สำหรับการดำเนินคดีเรื่องทุจริตในอดีตนั้น ธนาคารจะเร่งรัดการสอบสวนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ