‘สตาร์ไฟร์’ จากซันฯตอกย้ำผู้นำตลาดยูนิกซ์ รุกสร้างมาตรฐานเซิร์ฟเวอร์ในระบบศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่

ข่าวทั่วไป Monday December 8, 1997 15:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--8 ธ.ค.--ซัน ไมโครซิสเต็มส์
ซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้เพิ่มประสิทธิภาพเซิร์ฟเวอร์ตัวเก่งในตระกูลเอ็นเตอร์ไพรส์ 10000 ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อของ “สตาร์ไฟร์” เพื่อให้มีความยืดหยุ่นต่อการใช้งานได้สูงขึ้น โดยการเพิ่มจำนวนไดนามิก ซิสเต็ม โดเมนส์ หรือ DSD (Dymnamic System Domains) จาก 5 เป็น 8 ตัวต่อหนึ่งระบบ ทั้งนี้ DSD เป็นเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกับโหมด LPAR (Logical Partitioning) ที่ใช้ในเครื่องระดับเมนเฟรมซึ่งเอื้อประโยชน์ให้ผู้ใช้สามารถรันแอพพลิเคชั่นหลายๆ โปรแกรมบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพียงตัวเดียว โดยการแบ่งระบบเซิร์ฟเวอร์เดี่ยวของสตาร์ไฟร์ให้ทำงานเสมือนเซิร์ฟเวอร์หลายตัว ซึ่งแต่ละตัวจะทำงานบนระบบปฏิบัติการอันทรงพลังโซลาริสแยกจากกัน ส่งผลให้สตาร์ไฟร์เป็นเครื่องระบบยูนิกซ์เครื่องแรกในขณะนี้ที่ให้คุณสมบัติเหมือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับเมนเฟรม
“ลูกค้าที่จะสนใจในการเพิ่มจำนวนของโดเมนส์มากที่สุดน่าจะเป็นกลุ่มซึ่งสนใจที่จะรวมเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กหลายๆ ตัวภายใต้ระบบของสตาร์ไฟร์เพียงตัวเดียว รวมถึงผู้ใช้โปรแกรมด้าน ERP (Electronic Resource Planning) หรือผู้ที่ทำงานด้านระบบคลังข้อมูลเพื่อใช้ในการจัดการกับตลาดข้อมูลที่มีปริมาณมาก” คล้าค มาสเตอร์ส รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของซัน ดาต้า เซ็นเตอร์ และ ไฮ เพอร์ฟอร์มานศ์ คอมพิวติ้ง กรุ๊ป กล่าวและเสริมว่า “ด้วยการเพิ่มจำนวนโดเมนส์ที่สนับสนุนในระบบเซิร์ฟเวอร์เดี่ยวนั้น เราสามารถนำเสนอระบบที่มีความยืดหยุ่นในการจัดสรรทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ในองค์กรของเราให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งถือได้ว่าเป็นการยกระดับของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ในระบบศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (data center) ด้วย”
ระบบ ไดนามิก ซิสเต็ม โดเมนส์ (DSD : Dynamic System Domains)
ทุกวันนี้ 70 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าที่ใช้เครื่องสตาร์ไฟร์ในเชิงพาณิชย์ทั้งหมดได้ใช้คุณสมบัติของ DSD อยู่ โดยที่ระบบดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมการใช้ทรัพยากร อาทิ หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำ และ I/O ได้อย่างยืดหยุ่นและแยกส่วนไปในแต่ละโดเมนส์ได้โดยไม่รบกวนกระบวนการทำงานแต่อย่างใด สำหรับเซิร์ฟเวอร์สตาร์ไฟร์ที่มีตัวประมวลผลจำนวน 64 ตัว หน่วยความจำ 64 กิ๊กะไบต์ และความจุในการจัดเก็บถึง 20 เทราไบต์นั้นสามารถกระจายความสามารถในการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของการทำธุรกิจแต่ละประเภทได้ โดเมนส์เหล่านี้ทำงานแยกอิสระจากกัน ปรับขนาดและจัดการปรับเปลี่ยนได้ ดังนั้นจึงเอื้อต่อการประยุกต์ใช้งานและเพิ่มประสิทธภาพได้อย่างยืดหยุ่นและคล่องตัว
นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคม ซันฯ ยังได้ประกาศศักยภาพของเซิร์ฟเวอร์สตาร์ไฟร์ที่ใช้เทคโนโลยีแบบคลัสเตอร์ (Cluster) โดยการผนวกซอฟต์แวร์ด้านคลัสเตอร์เข้ากับระบบ DSD เพื่อเพิ่มความความสามารถด้านเทคนิคอันโดดเด่นในการย้ายแอพพลิเคชั่นจากเซิร์ฟเวอร์หลักไปทำงานบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์อีกตัวหนึ่งได้ทันที ในกรณีที่เซิร์ฟเวอร์หลักมีปัญหาในการทำงาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องสตาร์ไฟร์ ขณะเดียวกันยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดสรรทรัพยากรตลอดจนการจัดหาระบบในระดับต่างๆ ให้แก่ลูกค้า ตามความต้องการของธุรกิจหรือปัญหาด้านคอมพิวเตอร์แต่ละประเภท เซิร์ฟเวอร์สตาร์ไฟร์ซึ่งใช้ระบบประมวลผลแบบคู่ขนานหรือ SMP (symmetric multiprocessing) ทำงานบนระบบปฏิบัติการโซลาริส ยังได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นส่วนใหญ่ที่รันบนฮาร์ดแวร์ยูนิกซ์อื่นๆ ได้อย่างไร้ข้อจำกัด สตาร์ไฟร์จึงจัดเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ขยายขีดความสามารถได้สูงสุดในระดับไฮเอนด์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ตระกูลเอ็นเตอร์ไพรส์ของซันฯ ที่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดอย่างสูง
นับตั้งแต่ที่ ซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ ได้ริเริ่มแนวคิด "The Network is the Computer" ในปี 2525 ทำให้ซันฯ เป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการอื่น ๆ และเป็นผู้นำด้านการให้บริการอินทราเน็ตอย่างกว้างขวาง ตลอดจนการขยายไปสู่ระบบอินเตอร์เน็ต ซันฯ มีรายได้ต่อปีมากกว่า 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีสำนักงานใน 150 ประเทศ รวมทั้งมีข้อมูลอยู่ใน World Wide Web ที่ http://www.sun.com
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :เซเลสติน แทน สิริพร ศุภรัชตการซัน ไมโครซิสเต็มส์ เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์โทร. (65) 320-2578 โทร. 252-9871-7อีเมลล์: ctan@singapore.sun.com โทรสาร. 254-8353
อีเมลล์:S_Siriporn@bm.com-- จบ

แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ