กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--แบรนด์เด็ด ดิ เอเจนซี่
อ้วยอันโอสถ ผู้ผลิตยาสมุนไพรมาเกือบ 7 ทศวรรษ รีแบรนด์ดิ้งหลังยอดขายเติบโตต่อเนื่อง ปรับโฉมโลโก้ แพคเกจจิ้งดึงดูดลูกค้า นำนวัตกรรมเพื่อเพิ่มคุณค่าให้ผู้บริโภค รุกตลาดโซเชียลมีเดีย ร้านขายยาทั่วประเทศ โมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อ ตั้งเป้ายอดขาย ปีหน้าโต 25% พร้อมเล็งขยายโรงงานเพิ่มรองรับตลาดยาสมุนไพรในประเทศที่เติบโตมากขึ้นและตลาดเออีซี
นางนิชา สมบูรณ์เวชชการ กรรมการบริหารและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ดูแลด้านการตลาดและฝ่ายบุคคล และในฐานะทายาทสมบูรณ์เวชชการ รุ่นที่ 3 เปิดเผยว่า “เกือบ 70 ปีที่ผ่านมา อ้วยอันโอสถได้พัฒนาปรับภาพลักษณ์แบรนด์ (รีแบรนด์ดิ้ง) ครั้งใหญ่ 2 ครั้ง โดยในครั้งแรกสมัยที่คุณพ่อ (นายสิทธิชัย สมบูรณ์เวชชการ) เข้ามาขยายกิจการต่อจากร้านขายยาเดิม และได้คิดค้นยาสมุนไพรแคปซูล ยาน้ำต่างๆ ยาอมสมุนไพร ซึ่งยังคงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ความท้าทายในการทำตลาดยาสมุนไพร อยู่ที่ทำอย่างไรให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ แตกต่างจากคู่แข่ง เมื่อผู้บริโภคเดินเข้ามาในร้านขายยาแล้วถามหาแบรนด์อ้วยอันโอสถ จึงเป็นที่มาของการรีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่ ถึงแม้ว่ายอดขายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่แบรนด์อ้วยอันโอสถยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายเท่าที่ควร”
“ความจำเป็นที่จะรีแบรนด์ดิ้งครั้งนี้ก็เพื่อปรับแบรนด์อ้วยอันโอสถให้ชัดเจนขึ้น ปรับโลโก้ เปลี่ยนรูปแบบแพคเกจจิ้ง ให้ดูทันสมัยและเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่สำคัญพร้อมที่จะก้าวไปในการแข่งขันในตลาดในประเทศที่เข้มข้นขึ้นและตลาด AEC ในอนาคต ดังนั้นภาพลักษณ์ของอ้วยอันโอสถในการบริหารงานของทายาทรุ่นที่ 3 จึงต้องกลับมาทบทวน Brand Positioning, Brand personality และทิศทางของแบรนด์กันใหม่ เพื่อทำการตลาดที่เข้าถึงใจของผู้บริโภค กลยุทธ์ทางการตลาดที่ผ่านมาบริษัทฯ มุ่งเน้นทางด้านคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรวัตถุดิบ การผลิตที่ยังรักษาคุณค่าของสมุนไพรไว้ให้ได้มากที่สุด สิ่งที่ทำให้สินค้าของอ้วยอันโอสถแตกต่างจากคู่แข่งคือความน่าเชื่อถือ ประวัติที่มีมายาวนาน การให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ลูกค้า รวมถึงมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการรับรองโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ควอลิตี้อวอร์ด 3 ปีซ้อน และรางวัลจากสถาบันต่างๆ ”
ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นในปีนี้รวมถึงปีหน้าคือ การทำให้สินค้าที่มีคุณภาพของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยการขยายฐานลูกค้าไปในกลุ่มที่ยังไม่เคยใช้ยาจากสมุนไพร มีการทุ่มงบโฆษณา 10 ล้านบาท เพื่อโปรโมทสินค้า โดยเน้นไปที่สินค้าและแบรนด์อ้วยอันโอสถ พัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดีย (Social Media) ในการเจาะตลาดและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก กลุ่มลูกค้าแบ่งเป็นกลุ่มลูกค้ากรุงเทพฯ 60% และต่างจังหวัด 40% โดยยอดขายของบริษัทในปี 2557 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 280 ล้านบาท เติบโตคิดเป็น 15%จากปีที่แล้ว และในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโต 20-25%”
นางนิชา กล่าวต่อว่า “จากข้อมูลสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กลุ่มสมุนไพร) เพื่อใช้ในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาสมุนไพรไทย (พ.ศ.2556-2560) ในรายงานกล่าวถึง มูลค่าการตลาดยาจากสมุนไพรในประเทศ ประมาณ 8,000 ล้านบาท ส่วนอาหารเสริมจากสมุนไพรจากข้อมูลสมาพันธ์สุขภาพและความงาม ปี พ.ศ.2554 ประมาณมูลค่าอาหารเสริมสุขภาพตลาดในประเทศ 80,000 ล้านบาท โดยต้องนำเข้าวัตถุดิบสารสกัดจากสมุนไพรคิดเป็นมูลค่า 20,000 ล้านบาท”
ด้านนายชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ดูแลฝ่ายผลิต การควบคุมคุณภาพ R&D รวมถึง Export สินค้าไปยังต่างประเทศ กล่าวเสริมว่า ในปี 2558 บริษัทฯมีแผนงานการขยายโรงงาน เนื่องจากกำลังผลิตที่โรงงานปัจจุบันใช้เต็มกำลังการผลิตตามความนิยมในผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรที่มีมากขึ้น ดูได้จากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC และเน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักต่อผู้บริโภค มีการประชาสัมพันธ์ให้คนมาใช้สมุนไพรและรู้จักแบรนด์อ้วยอันโอสถผ่านสื่อต่างๆมายิ่งขึ้น เป้าหมายของบริษัทฯคือ ถ้านึกถึงสมุนไพร อ้วยอันโอสถจะต้องเป็นแบรนด์แรกที่ผู้บริโภคนึกถึง
"เรามีความมั่นใจในการขยายตลาดไปในประเทศ AEC ใน 2 ปีข้างหน้านี้ ปัจจุบันบริษัทมีการส่งออกผลิตภัณฑ์จำหน่ายในประเทศลาว และกัมพูชา สินค้าที่ส่งออกได้แก่ ยาอมสมุนไพร ยาน้ำเขากุยและยาน้ำแก้ไอมะแว้ง ฯลฯ การที่เราจะแข่งขันกันในตลาด AEC นอกจากความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์แล้ว คุณภาพของสินก็สำคัญ ดังนั้นบริษัทจึงมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการควบคุมคุณภาพตั้งแต่คุณภาพของวัตถุดิบจนส่งมอบสินค้าถึงมือผู้บริโภค นอกจากนี้ได้ส่งออกไปยังประเทศโรมาเนีย ออสเตรีย และอิสราเอล โดยมีการขึ้นทะเบียนยาผ่านองค์การอาหารและยาของประเทศเหล่านี้อย่างถูกต้อง ปัจจัยสำคัญในจดทะเบียนสินค้าในประเทศเหล่านี้คือคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ที่เราส่งออกได้แก่ยาแคปซูล มะรุม ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และส้มแขก นอกเหนือจากคุณภาพสินค้า Innovation หรือนวัตกรรม ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในธุรกิจยาสมุนไพร อ้วยอันโอสถจึงมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ฟ้าทะลายโจรสกัด ขมิ้นชันพลัส เป็นนวัตกรรมทั้งในด้านเทคโนโลยี และงานวิจัยสมุนไพร ผสมผสานกัน เข้ามาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยา เช่นยาขมิ้นชันพลัส เรานำขมิ้นชันมาสกัดด้วยวิธี solvent extraction, oil separation, evaporation, และ spray drying เพื่อเพิ่มความเข้มข้น ทั้งยังได้คิดสูตรที่ทำให้สาร curcuminoid ในขมิ้นชันนั้นได้ถูกซึมซับเพิ่มมากขึ้นถึงเท่าตัว”
ในด้านมาตรฐานการผลิต อ้วยอันโอสถได้รับมาตรฐานการผลิต ASEAN GMP เป็นมาตรฐานที่สูงที่สุดของยาแผนโบราณในขณะนี้ นอกจากมาตรฐานด้าน GMP แล้วเรายังมีระบบการตรวจสารสำคัญเพื่อทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่าการใช้สมุนไพรของเราทุกครั้ง จะได้ยาที่มีมาตรฐานที่ดีเหมือนกันทุกครั้ง มีสารสำคัญอยู่ในตัวยาในปริมาณที่เราสามารถวัดได้ ด้วยเครื่อง spectophotometer และ high performance liquid chromatography (HPLC)
"แม้ว่าอ้วยอันโอสถจะมีอะไรหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบยาที่ทันสมัยมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัยเช่นเดียวกับยาแผนปัจจุบัน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงรักษาไว้ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ก็คือชื่อแบรนด์ “อ้วยอันโอสถ” ที่แปลเป็นไทยว่า การผลิตยาที่ “สะอาด และ ปลอดภัย” ซึ่งเป็นดั่งปรัชญาธุรกิจที่มีมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ หน้าที่ของพวกเราคือ คงรักษา “คุณค่า” ที่ดีงามเหล่านี้ไว้ เพื่อให้ยังครองใจผู้บริโภคทุกยุคสมัยตลอดไป"