กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--สมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย
นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็น Medical Hub มีชาวต่างชาติ มาใช้บริการหมอไทยสารพัดโรค รวมทั้งศัลยกรรม ซึ่งสามารถทำเงินเข้าประเทศได้มากมาย“ศัลยกรรมบ้านเราคุณภาพดีและถูก ต่างชาติมาทำกันเยอะมากในหลายๆ โรงพยาบาล โดยเฉพาะเรื่องตา จมูก ทำหน้าอก แปลงเพศ ซึ่งผมว่าหมอไทยหลายๆ คนเก่ง ต่างชาติเชื่อฝีมือและคุณภาพของแพทย์ไทย เกาหลีเขาเอาญี่ปุ่นเป็นครู ลองสังเกตดู เลียนแบบแทบจะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง สกินแคร์ เทคโนโลยี ทำตามญี่ปุ่นเป๊ะ ที่สำคัญศัลยกรรมยังล้าหลังกว่าเมืองไทย 30 ปี
ศัลยแพทย์ไทยซึ่งทำศัลยกรรมบริเวณใบหน้าจะมีพื้นฐานความรู้จากแพทย์หู คอ จมูก ปาก ก่อนแตกแขนงเป็นแพทย์พิเศษเฉพาะทาง ผู้เชี่ยวชาญด้านตา จมูก ปาก เส้นผม ฟัน หน้าอก
ส่วนการแปลงเพศนั้นอันดับ 1 อยู่แล้ว ได้รับการยอมรับทั่วโลก นอกจากนี้ศัลยแพทย์ไทยยังมีการวิจัยพัฒนาเทคนิคและเทคโนโลยีในการศัลยกรรมความงามอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นวงการศัลยกรรมความงามในประเทศไทยจึงจัดได้ว่าเหนือกว่าเกาหลีใต้ เราไม่จำเป็นต้องหอบสังขารเดินทางไกลไปโมดิฟายหน้าถึงเกาหลี ในขณะที่เมืองไทยต่างชาติเขายกย่องในฝีมือ”
ปัจจุบัน นพ.ชลธิศ เป็นเจ้าของธีรพรคลีนิก ที่คนไข้แห่มากรีดตากันเพียบแทบจะทะลักคลินิก อีกทั้งคุณหมอเดินสายบรรยายถึงเทคนิคการกรีดตาขั้นเทพมาแล้วหลายประเทศ (รวมทั้งเกาหลีใต้ด้วย)
ทว่าคุณหมอมักจะทำการผ่าตัดในช่วงเวลากลางคืน เปิดคลินิกรับคนไข้ในช่วงเย็นเกือบค่ำ ปิดคลินิกเกือบเช้า เพราะเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้สมาธิอย่างสูง
"เจาะรูเล็กๆ บริเวณเปลือกตาเพียง 2 รู แทนการกรีดตา ไม่ต้องวางยาสลบ การเย็บแผลก็นำกล้องจุลทรรศน์มาใช้ ซึ่งทำให้มีรอยแผลขนาดเล็ก ลดอาการบวมลงได้มาก แทนที่จะกรีด เปลือกตาให้เป็นแผลยาวเทคนิคนี้เมืองไทยคิดค้นได้เป็นที่แรกในโลก และได้รับการยอมรับ อย่างกว้างขวางในวงการแพทย์ระดับนานาชาติ ศัลยกรรมเป็นงานฝีมือแค่เรียนรู้อย่างเดียวพอ ต้องหมั่นฝึกฝีมือกว่ามือจะนิ่ง" ศัลยแพทย์มือฉมัง ที่ทำตาสวยๆให้กับนักแสดงและเซเลปบริตี้มาแล้วมากมายกล่าว