กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--แฟรนคอม เอเชีย
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (“เหมราช”) ประกาศยอดขายที่ดิน 9 เดือนแรกปี 2557 จำนวน 522 ไร่ (208 เอเคอร์ หรือ 84 เฮกตาร์) โดยมีจำนวนสัญญารวม 31 สัญญา เป็นลูกค้าใหม่ 21 ราย และเป็นการขยายโครงการของลูกค้าที่มีอยู่เดิม 10 ราย จากจำนวนสัญญาทั้งหมดเป็นนักลงทุนญี่ปุ่นร้อยละ 39 และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์กว่าร้อยละ 25
นายเดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากช่วงกลางปี 2557 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะทางการเมืองที่มั่นคง มีความสงบสุขกลับคืนมา และการเริ่มฟื้นตัวจากการลงทุนของนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าในปี 2557 การเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศไทยจะเติบโตร้อยละ 1 และจะฟื้นตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 4.6 ในปี 2558
ยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทฯ สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของตลาดกลุ่มยานยนต์ในประเทศโดยปริมาณการรับจ้างผลิต (OEM) ของกลุ่มยานยนต์ทั้งหมดลดลงร้อยละ 28 ตลอดในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2557 แต่การรับจ้างผลิต (OEM) ในส่วนของการส่งออกยานยนต์เติบโตขึ้นร้อยละ 3 อย่างไรก็ตามภาพรวมของมูลค่าชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 นอกจากนี้ยังมีการลงทุนของอุตสาหกรรมยานยนต์ใหม่หรือเทคโนโลยีด้านยานยนต์ในระยะยาว สะท้อนให้เห็นถึงแผนการลงทุนในเชิงบวกของอุตสาหกรรม โดย 5 ค่ายรถยนต์ที่มีโรงงานอยู่ภายในนิคมฯเหมราชได้ทำการยื่นขออนุมัติโครงการ Eco Car 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โครงการที่รออนุมัติการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มีจำนวน 284 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่งได้รับการอนุมัตินั้น ทำให้มีผลกระทบต่อระยะเวลาในการลงทุนปี 2557 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงมั่นใจในผลประกอบการ เนื่องจากมีลูกค้าใหม่ 21 ราย และลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มยานยนต์จำนวน 23 สัญญา จาก 31 สัญญา จากข้อจำกัดดังกล่าวข้างต้น กอปรการปิดซ่อมบำรุงของโรงงานอุตสาหกรรมในไตรมาส 3 ส่งผลกระทบระยะสั้นต่อปริมาณการใช้น้ำดิบและน้ำเสียที่เติบโตเพียงร้อยละ 2 เช่นเดียวกับพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปให้เช่าเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2 และพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 14
สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน โครงการโรงไฟฟ้าอิสระกำลังการผลิต 660 เมกกะวัตต์ (IPP) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เหมราชถือหุ้นร้อยละ 35 และบริษัทโกลว์เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 65 (GDF Suez group) ได้ผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อย่างมีประสิทธิภาพถึงร้อยละ 95 ซึ่งมากกว่าที่บริษัทฯคาดการณ์ไว้ในช่วงปีที่ผ่านมา
เรายังคงเชื่อมั่นในกลยุทธ์ทางธุรกิจของเหมราชที่มุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และคาดการณ์ได้ ดังเช่นผลประกอบการในครึ่งปีแรกของปี 2557 ซึ่งเป็นไปในทางที่ดี ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการตั้งฐานการผลิต และการเติบโตทางธุรกิจ เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ ทั้งต้นทุน โครงสร้างพื้นฐานที่ดี และการขยายเข้าถึงตลาด “
รายละเอียดเพิ่มเติมของบริษัทเหมราช สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hemaraj.com
หรือติดต่อทางอีเมล์ที่ invest@hemaraj.com หรือ 662-719-9555-9 หรือ แฟกซ์ 662-719-9546-7