กรีนพีซเรียกร้องรัฐบาลไทยหยุดผลักดันการทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอในแปลงเปิด

ข่าวทั่วไป Wednesday October 22, 2014 15:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--กรีนพีซ กรีนพีซเรียกร้องให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์หยุดผลักดันให้มีการทดลองปลูกพืชดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) ในไร่นาหรือในพื้นที่เปิด ข้อเรียกร้องของกรีนพีซมีขึ้นในวันเดียวกับที่ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำพิพากษากรณีกรีนพีซยื่นฟ้องกรมวิชาการเกษตรในข้อหาละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนก่อให้เกิดการปนเปื้อนของมะละกอดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) ไปสู่แปลงเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมนับตั้งแต่ปี 2547 กรีนพีซระบุว่าการห้ามการทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอในไร่นาจะทำให้รัฐบาลสามารถกำหนดนโยบายที่เหมาะสมกับระบบนิเวศ สังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของประเทศที่มีความเฉพาะแบบของตน และปกป้องอธิปไตยทางอาหารของประเทศจากการครอบงำและผูกขาดของบรรษัทอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่ นายธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า "ไม่ว่ากรมวิชาการเกษตรจะถูกตัดสินในคดีปกครองฐานละเลยต่อหน้าที่หรือไม่ก็ตามในการจัดการการปนเปื้อนของมะละกอจีเอ็มโอที่ขอนแก่น นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ความจริงก็คือมีการปนเปื้อนของพืชจีเอ็มโอขยายเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ (1) นี่คือบทเรียนสำคัญของประเทศไทยและเป็นข้อพิสูจน์ว่าการทดลองจีเอ็มโอในพื้นที่เปิดนั้นควบคุมไม่ได้" หลังจากการตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อต้นเดือนตุลาคมนี้รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังพิจารณาว่าจีเอ็มโอนั้นช่วยพัฒนาพืชเศรษฐกิจสี่ชนิดได้ ได้แก่ ข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์ม และอ้อย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เล็งเห็นว่าจีเอ็มโอเป็นทางเลือกในการเพิ่มผลผลิต ควบคุมต้นทุน และลดปริมาณในการใช้สารเคมีในการเพาะปลูก แม้จะมีผลการศึกษาว่าการปลูกพืชจีเอ็มโอไม่ได้ทำให้เพิ่มผลผลิต แต่จะทำให้ต้นทุนสูงและใช้สารเคมีในการผลิตมากขึ้น จากการรายงานข่าวระบุว่า (2) นายอลงกรณ์ กรณ์ทอง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพืชไร่ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้วางแผนเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ยกเลิกมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2550 ที่เป็นอุปสรรคต่อการทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอในแปลงเปิด "การผลักดันให้มีการทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอในแปลงเปิดจะส่งผลให้มีการปนเปื้อนของจีเอ็มโอในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อแหล่งอาหารที่คนไทยหลายล้านคนต้องพึ่งพาอาศัย นอกจากการปนเปื้อนของมะละกอที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้วในประเทศอื่นๆ ก็ประสบปัญหาดังกล่าวเช่นกัน เช่นในสหรัฐอเมริกาซึ่งมีการปนเปื้อนของจีเอ็มโอที่แทบไม่อาจฟื้นคืนกลับมาได้อีกแล้ว ผลที่ตามมาย่อมหมายถึงหายนะของการเกษตรไทยหากการปนเปื้อนของจีเอ็มโอเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง" "เราคนไทยทุกคน ทั้งในฐานะปัจเจกและในฐานะผู้บริโภค มีสิทธิที่จะรับทราบข้อมูล ระแวดระวัง และไม่สนับสนุนจีเอ็มโอซึ่งประดิษฐ์ขึ้นเพื่อให้บรรษัทข้ามชาติผูกขาดระบบเกษตรกรรมและตลาดอาหาร เราต้องช่วยกันปกป้องอาหาร โดยมิใช่เพียงเพื่อสุขภาพเท่านั้นแต่ยังเพื่อสนับสนุนวิถีชีวิตของชุมชนซึ่งคือความมั่นคงและความอุดมสมบูรณ์ทางอาหารของชาติที่จะมีสำหรับเยาวชนรุ่นหลังต่อไป" นายธารากล่าวสรุป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ