กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--โฟร์ พี.แอดส์ (96)
กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนผู้ท่องเที่ยวในพื้นที่หนาวเย็น เพิ่มความระมัดระวังการอาบน้ำจากเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้พลังงานจากแก๊สหุงต้มที่ไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากมีรายงานผู้เสียชีวิตปีละ 1-2 คน
นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้หลายภูมิภาคของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นไปท่องเที่ยว โดยเฉพาะบริเวณภูเขาสูง ยอดดอย ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น ทำให้ต้องอาบน้ำอุ่นจากเครื่องทำน้ำอุ่น บางรีสอร์ทติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊สที่ไม่ได้มาตรฐาน ประกอบกับก๊าส LPG หรือ ก๊าสหุงต้มและก๊าสโพรเพนในเครื่องทำน้ำอุ่นสันดาปไม่ดี ถ้าร่วมกับห้องน้ำไม่มีอากาศถ่ายเท ทําให้เกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ คาร์บอนมอนนอกไซด์ ในปริมาณมากจนทำให้เกิดอากาศหายใจ หมดสติ และเสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน เนื่องจากขาดออกซิเจน จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพ โดยสำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรค ในฤดูหนาวปี 2555-2556 พบผู้ป่วยหมดสติขณะอาบน้ำในห้องน้ำ ที่ใช้เครื่องทําน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊สในที่พักพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จํานวน 5 ราย เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งตรวจระดับก๊าซในห้องน้ำ พบว่ามีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ อยู่ในระดับสูงมากที่เป็นระดับที่สามารถทําให้เสียชีวิตได้ทันทีและคาดว่าน่าจะมีการป่วยและเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในที่พักพื้นที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง แต่ไม่ได้มีการติดตามเฝ้าระวัง ดังนั้นจึงควรให้ความระมัดระวังการเดินทางไปพักผ่อนในที่พักที่มีการใช้เครื่องทําน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส รวมทั้งการใช้อุปกรณ์ทําความอบอุ่นที่ใช้แก๊ส หรือน้ำมันก๊าดเป็นเชื้อเพลิงดังกล่าว
นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า “เจ้าของโรงแรม รีสอร์ท ที่พัก ที่มีการใช้เครื่องทําน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊สควรดำเนินการดังนี้ 1) มีการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และการบํารุงรักษาเครื่องทําน้ำอุ่นที่ใช้ระบบแก๊ส2) ตรวจสอบการรั่วและปริมาณการสะสมของก๊าซในสถานที่พักอยู่เสมอ 3) ห้องน้ำหรือห้องพักควรมีพื้นที่กว้างเพียงพอและมีช่องหรือพัดลมระบายอากาศที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน และ 4) ติดป้ายเตือนและบอกถึงวิธีใช้งานของเครื่องทําน้ำอุ่นไว้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกันผู้ที่เข้าพักอาศัยควรปฏิบัติดังนี้ 1) สังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับแก๊ส ระหว่างใช้ห้องน้ำ เช่น วิงเวียน หน้ามืด หายใจลําบาก เป็นต้น ควรรีบออกจากห้องน้ำหรือให้การช่วยเหลือทันที 2) คนที่มีโรคประจําตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินลมหายใจ ควรระมัดระวังมากขึ้นในการใช้ห้องน้ำที่มีเครื่องทําน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊ส เพราะหากได้รับก๊าซดังกล่าวจะทําให้เสียชีวิตได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่น ๆ และ 3) การอาบน้ำโดยเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้แก๊สหุงต้ม ถ้าไม่มีเครื่องระบายอากาศ ควรเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อให้อากาศถ่ายเท ก่อนที่คนอื่นจะอาบน้ำต่อ หากมีคนอาบน้ำนานผิดปกติให้รีบช่วยเหลือ เพราะอาจหมดสติในห้องน้ำ
สำหรับเจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าของที่พัก และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ควรให้ความรู้แก่ประชาชนในการเข้าพักอาศัยในโรงแรม ที่พัก ที่มีการใช้เครื่องทํา น้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊ส อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เพียงพอ และจําเป็นต้องใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง เช่น บริเวณป่า ภูเขาสูง เป็นต้น ผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” นายแพทย์โสภณกล่าว