กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--พม.
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน “วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ประจำปี ๒๕๕๗ และการประชุมสมัชชาสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๓ เรื่อง การส่งเสริมหุ้นส่วนทางสังคมในการจัดสวัสดิการสังคม : หนทางการสร้างความปรองดองในสังคมไทย” พร้อมประทานโล่ประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่น จำนวน ๒๕๒ ราย และองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น จำนวน ๑๘ องค์การ โดยมี พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะผู้บริหารกระทรวงฯ เฝ้ารับเสด็จ ณ ห้อง Royal Jubilee Ballroom อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพคเมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย พระองค์ทรงประกอบแต่คุณงามความดี ช่วยเหลือเกื้อกูลประชาชนผู้เดือดร้อนทุกข์ยากโดยมิได้ทรงเห็น แก่ความเหนื่อยยาก รัฐบาลจึงกำหนดให้วันที่ ๒๑ ตุลาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย โดยในปีนี้ตรงกับโอกาส ครบ ๑๑๔ ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ ให้เป็นแบบอย่างแก่อาสาสมัครและองค์การที่ทำกิจกรรมทางสังคม คณะกรรมการจัดงานจึงจัดพิธีประกาศเกียรติคุณอาสาสมัครดีเด่นและองค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่นแห่งชาติขึ้น โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์รับผิดชอบดำเนินการจัดงานดังกล่าว
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า เนื่องในวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ เป็นวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสมัครไทย ประจำปี ๒๕๕๗ ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายในการสร้างความปรองดองในสังคมไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงจัดให้มีการประชุมสมัชชาสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๓ ในหัวข้อเรื่อง “การส่งเสริมหุ้นส่วนทางสังคมในการจัดสวัสดิการสังคม : หนทางการสร้างความปรองดองในสังคมไทย” ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะหากทุกคนในสังคมหันหน้ามาเป็นหุ้นส่วนกัน หมายความว่าทุกคนมีการตกลงปลงใจร่วมกันในการทำดีเพื่อสังคม ไปสู่จุดมุ่งหมายร่วมกันในการคืนความสุขและสร้างความสุขให้ประชาชน ย่อมทำให้สังคมนี้เกิดความปรองดองและสันติสุขได้ในที่สุด
ทั้งนี้ “ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานวันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ วันอาสาสมัครไทย และการประชุมสมัชชาสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ในปี ๒๕๕๗ นี้ จะนำมาซึ่งความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่งของวงการสังคมสงเคราะห์และอาสาสมัครไทย ซึ่งเราทุกคนในที่นี้ ถือเป็นกลไกสำคัญในการดำเนินงานและขยายผลให้ทุกคนในแผ่นดินเข้ามามี ส่วนร่วมต่อไป” พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวตอนท้าย.