ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. ปริญสิริ” ที่ “BBB-" และเปลี่ยนแนวโน้มเป็น “Negative” จาก “Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 29, 2014 16:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB-” พร้อมทั้งปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จาก “Stable” หรือ “คงที่” โดยแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” สะท้อนถึงความเสี่ยงทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นและสถานะทางการเงินที่ต่ำกว่าคาดของบริษัท ในขณะที่อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงผลงานของบริษัทที่เป็นที่ยอมรับในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรร รวมถึงแบรนด์ที่เริ่มเป็นที่รู้จักในตลาดคอนโดมิเนียม ทั้งนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึง ฐานรายได้ของบริษัทที่มีขนาดเล็ก ลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลงและมีการแข่งขันสูง รวมถึงความกังวลในด้านต้นทุนการพัฒนาโครงการที่ปรับตัวสูงขึ้นและภาวะขาดแคลนแรงงานด้วยเช่นกัน ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงสถานะทางการเงินของบริษัทที่อ่อนลงกว่าคาดและความกังวลต่อปัญหาการบริหารงานขายและการก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากบริษัทไม่สามารถปรับปรุงผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงิน โดยเฉพาะสภาพคล่องให้ดีขึ้น ในทางกลับกัน แนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับเปลี่ยนกลับไปเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ได้หากอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้เพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 10% และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนรักษาระดับอยู่ระหว่าง 50%-55% ได้ บริษัทปริญสิริก่อตั้งในปี 2543 โดยกลุ่มตระกูลโกวิทจินดาชัยและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2548 กลุ่มตระกูลโกวิทจินดาชัยยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทในสัดส่วน 38% ของหุ้นทั้งหมด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 บริษัทเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลายซึ่งรวมถึงบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมที่เน้นกลุ่มลูกค้ารายได้ระดับปานกลางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ณ เดือนมิถุนายน 2557 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยเหลือขายจำนวน 23 โครงการ ด้วยมูลค่าเหลือขายประมาณ 8,000 ล้านบาท ส่วนมาก (73%) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว ในขณะที่ 21% เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ และ 6% เป็นโครงการคอนโดมิเนียม บริษัทมียอดขายรอการรับรู้รายได้จำนวน 1,105 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการทาวน์เฮาส์ รายได้ของบริษัทช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ระหว่าง 2,000-3,000 ล้านบาท ลดลงจาก 4,000-5,000 ล้านบาทในช่วงปี 2551-2553 รายได้ที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากยอดขายที่ลดลงและการก่อสร้างที่ล่าช้า นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยังประสบกับปัญหาการบริหารงานขายและการก่อสร้างในหลายโครงการซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานลดต่ำลง รายได้ทั้งหมดในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 เท่ากับ 1,042 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รายได้จากโครงการทาวน์เฮ้าส์ซึ่งเป็นรายได้หลักลดลงเป็น 300 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 จาก 700 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 ทั้งนี้ รายได้จากโครงการทาวน์เฮ้าส์ของบริษัทโดยปกติจะอยู่ระหว่าง 1,000-1,500 ล้านบาทต่อปี อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทลดลงจาก 15.88% ในปี 2555 เป็น 11.56% ในปี 2556 และ 6.70% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ซึ่งต่ำกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 10% อัตราส่วนดังกล่าวลดลงเนื่องจากบริษัทสามารถรับรู้รายได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารยังคงอยู่ในระดับสูง อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 อยู่ที่ 58.25% เพิ่มขึ้นจาก 44.82% ในปี 2556 อัตราส่วนดังกล่าวนี้สูงกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุนของบริษัทเท่ากับ 1.4 เท่า โดยข้อกำหนดทางการเงินทำให้บริษัทต้องรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุนให้อยู่ที่ระดับไม่เกิน 2 เท่า ผลการดำเนินงานที่ต่ำลง และหนี้สินที่สูงขึ้นทำให้ความเข้มแข็งของกระแสเงินสดของบริษัทอ่อนลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 โดยอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเท่ากับ 3.21% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีด้วยตัวเลข 12 เดือนย้อนหลัง) ณ สิ้นเดือน มิถุนายน 2557 ลดลงจาก 11.89% ในปี 2555 และ 4.84% ในปี 2556 บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) (PRIN) อันดับเครดิตองค์กร: BBB- แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ