กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)สานต่อความสำเร็จโครงการไทยแลนด์ เอนิเมชั่น คอนเทสต์ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 8 ภายใต้หัวข้อ “1 สิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับเยาวชนไทย” โดยร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) มูลนิธิ ๕ธันวามหาราช และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ประกาศผลการตัดสินและมอบรางวัลแก่ผู้ชนะพร้อมทุนการศึกษามูลค่ารวม 256,000 บาท กรมธรรม์ประกันภัยให้ความคุ้มครองชีวิตและอุบัติเหตุ ทุนประกันภัยรวมมูลค่ากว่า 13 ล้านบาท เป็นเวลา 1 ปี พร้อมนำทีมชนะเลิศทั้งระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา บินตรงสู่ญี่ปุ่น ทัศนศึกษาเรียนรู้งานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเอนิเมชั่น1 สัปดาห์เต็ม
สำหรับในปีนี้รางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาตกเป็นของทีม “โอเลี้ยง” ในชื่อเรื่อง “ศึกขนมปัง” ของ นางสาวณัฐรดา ฉัตรฤทธิชัยกุล นางสาวพลอยจะเพลิน เผ่าพันเลิด และนางสาวชฎาธาร เดชรุจิวัฒน์ จากโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ และรางวัลชนะเลิศระดับอุดมศึกษาได้แก่ ทีม “แจ้งวัฒนะ คลอง 2” ในชื่อเรื่อง “สอยดาว” ของนายวิศาล เมฆกิจ นายวศิน เมฆกิจ และ นายศุภกฤต เกรียงณรงค์เดช จากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม บริหารธุรกิจ (ศิลปกรรมสาขาคอมพิวเตอร์กราฟฟิก)
นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า อลิอันซ์ อยุธยาตระหนักถึงการทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อวางรากฐานความรู้แก่เยาวชนไทยที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต ภายใต้แนวคิด “ปันความรู้สู่เด็กไทย” จึงเป็นที่น่าภาคภูมิใจมากที่โครงการ “ไทยแลนด์ เอนิเมชั่น คอนเทสต์ 2014 โดย อลิอันซ์ อยุธยา” ได้ดำเนินมาจนถึงปีที่ 8แล้ว ซึ่งยังคงได้รับความสนใจจากเยาวชนทั้งในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาเป็นจำนวนมาก แสดงว่าเยาวชนไทยมีความสนใจในเรื่องการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ผ่านงานเอนิเมชั่น โดยผลงานส่วนใหญ่ได้สะท้อนถึงความตระหนักรู้ของเยาวชนว่า1 สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา หรือ สำหรับเยาวชนไทยจากการตีความโจทย์ที่ได้รับในทางสร้างสรรค์ คืออะไร และสามารถสื่อสารออกมาได้อย่างดีในรูปของภาพยนตร์เอนิเมชั่นคุณภาพเยี่ยมซึ่งเราเชื่อมั่นว่าโครงการนี้มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่มีความมั่นใจในศักยภาพของตนนำไปสู่การริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
“สิ่งที่โดดเด่นมากในปีนี้คือ คุณภาพของผลงานที่เยาวชนแต่ละทีมพัฒนาขึ้น เรียกได้ว่าบางชิ้นงานสามารถเทียบชั้นนักเอนิเมเตอร์มืออาชีพได้เลยทีเดียว ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่าการจัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่องทุกปีมีส่วนกระตุ้นให้เยาวชนใช้ศักยภาพของตนอย่างเต็มที่ในการเรียนรู้และพัฒนาฝีมือด้านเอนิเมชั่นกันอย่างจริงจัง และต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้ด้วยดีตลอดมาจนประสบความสำเร็จในทุกๆ ปี นอกจากนี้ทางอลิอันซ์ อยุธยาและเนคเทค ยังมีโครงการต่อยอด สานต่องานด้านการพัฒนาเยาวชน ด้วยการสนับสนุนโครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชนผู้มีความสามารถด้านเอนิเมชั่นสู่การแข่งขันระดับโลก (Talent Development Program for International Animation Contest) หรือ TIC ต่อไป” นางสาวพัชรา กล่าว
การประกวดสร้างภาพเคลื่อนไหว โครงการ “ไทยแลนด์ เอนิเมชั่น คอนเทสต์ 2014 โดย อลิอันซ์ อยุธยา” ภายใต้หัวข้อ “1 สิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับเยาวชนไทย” แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ มัธยมศึกษาและอุดมศึกษา เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยผลงานเอนิเมชั่นที่ส่งเข้าประกวด กำหนดให้สร้างด้วยโปรแกรม Open Source เท่านั้น ความยาวไม่เกิน 3 นาที และในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จด้วย จำนวนเยาวชนกว่า 600 คนจากทั่วประเทศส่งผลงานเข้าประกวดมากถึง 200 ผลงาน อันเป็นผลมาจากชื่อเสียงของโครงการที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ในกลุ่มอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งมืออาชีพในวงการเอนิเมชั่น
ดร.กว้าน สีตะธนี ที่ปรึกษาศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า " ปีนี้นับเป็นปีที่ 8 ที่ทางเนคเทคให้การสนับสนุนโครงการนี้ โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีพื้นที่ในการแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ ผ่านสื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ พร้อมกับการส่งเสริมให้มีการใช้เครื่องมือในการสร้างผลงานที่ถูกต้องลิขสิทธิ์ เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักในเรื่องของการเคารพในทรัพย์สินทางปัญญา ที่สำคัญในด้านการใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สในการสร้างผลงาน เราได้กำหนดเงื่อนไขให้เยาวชนที่แข่งขันทุกทีม ใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สมาเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งหากคนที่ติดตามโปรแกรมต่างๆเหล่านี้ ก็จะทราบว่า โอเพนซอร์ส นั้น นอกจากจะเป็นเครื่องมือช่วยสร้างผลงานของเราแล้ว ยังมีส่วนช่วยทำให้เราเป็นผู้ที่ไม่หยุดการพัฒนาตนเอง โดยเฉพาะในสายงานนี้ การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญและปฏิบัติ และที่สำคัญ คือ โปรแกรมโอเพนซอร์ส ไม่มีเรื่องของค่าใช้จ่าย หรือ ความเสี่ยงต่อการละเมิดลิขสิทธิ์"
ดร.จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ ๕ ธันวามหาราช กล่าวว่า “มูลนิธิฯได้สนับสนุนโครงการนี้ มาตลอดระยะเวลา 8 ปี เช่นกัน และถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงประธานถ้วยรางวัลพระราชทานให้กับทีมเยาวชนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศมาโดยตลอด ซึ่งในปีพ.ศ. 2557 นี้ ถือเป็นโอกาสมหามงคลที่พระองค์เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ทางโครงการจึงได้มีการจัดนิทรรศการพิเศษ เพื่อนำเสนอพระอัจริยภาพของพระองค์ ในฐานะ “เจ้าฟ้าไอที”และโครงการที่มุ่งส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งไทยแลนด์ เอนิเมชั่น คอนเทสต์เอง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้สานต่อตามพระราชประสงค์ของพระองค์ โดยผลงานที่ส่งเข้ามาแต่ละปี มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทราบว่ามีเยาวชนไทยหลายคนที่ได้รับการสนับสนุนต่อเนื่อง นำผลงานส่งแข่งขันระดับนานาชาติและได้รับรางวัลชนะเลิศ สร้างชื่อให้กับประเทศไทย นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจของมูลนิธิฯ ที่ได้มีโอกาสสนับสนุนโครงการดีๆ เพื่อเยาวชนไทย เพื่อคนไทย และท้ายนี้ต้องขอขอบคุณหน่วยงานทุกองค์กรที่สนับสนุนและทำให้งานสำเร็จลุล่วงตลอดมา”
รองศาสตราจารย์ ดร.พิสิษฐ์ ชาญเกียรติก้อง คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวว่ารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ โดยปีนี้นับเป็นปีที่ 5 ที่ PIM ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงาน ทำให้ได้เห็นพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของเยาวชนผู้เข้าแข่งขัน ทั้งในด้านเทคนิคการพัฒนาผลงานแอนิเมชันและวิธีการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม ผ่านผลงานที่สอดคล้องกับโจทย์ในแต่ละปี และหัวข้อการแข่งขันในปีนี้ “1 สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเยาวชนไทย” ถือเป็นหัวข้อที่ช่วยสะท้อนมุมมองและความต้องการของเยาวชนอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับเยาวชนที่แท้จริงโดยเชื่อว่าแต่ละทีมล้วนทุ่มเทพัฒนาผลงานกันอย่างเต็มกำลังความสามารถตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เพื่อให้ผลงานเป็นที่ประทับใจสำหรับผู้ชม ทาง PIM ได้สนับสนุนของรางวัลสำหรับทุกทีม ในงานพิธีประกาศผลในครั้งนี้ และมอบทุนการศึกษาสำหรับผู้ชนะการแข่งขันระดับมัธยมศึกษา ในการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่ PIM รวมมูลค่าทุนกว่า 7 แสนบาท”
สำหรับการตัดสินในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากมืออาชีพด้านเอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกชั้นนำมาเป็นคณะกรรมการตัดสิน อาทิ เอ็กซ์ ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ ผู้กับกับภาพยนต์เอนิเมชั่น “ยักษ์”, เปลว ศิริสุวรรณ ผู้กำกับภาพยนตร์อิสระ และผู้ก่อตั้ง บริษัท 3 Studio,คุณบูลย์ศักดิ์ วัธนวิสิต ผู้เชียวชาญ Blender และผู้ก่อตั้งบริษัท SpringBox Studio, ศศพิชญ์ รุจิรัตน์ Founder บริษัท Wishberry Animation โดยได้คัดเลือกผลงาน 17 ทีมสุดท้าย (10 ทีมจากมัธยมศึกษาและ 7 ทีมจากอุดมศึกษา) ซึ่งทุกทีมได้เข้าเก็บตัวในค่ายพัฒนาฝีมือและเพิ่มพูนความรู้ด้านการสร้างสรรค์เอนิเมชั่นขั้นสูง เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน เมื่อวันที่ 24-25 ตุลาคม โดยมีอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญ ด้านเอนิเมชั่นให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างผลงานคุณภาพในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเยาวชนทั้งหมดได้รับความรู้ เคล็ดลับเพื่อใช้ในการสร้างสรรค์งานเพิ่มเติมจากผลงานเดิม 2 นาที เพิ่มอีก 1 นาที รวมเป็นผลงานชิ้นสุดท้าย 3 นาที เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการในรอบสุดท้าย และในวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทางโครงการฯได้จัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ แนะแนวหนทางสู่สายงานด้านเอนิเมชั่น ณ อาคารเนคเทคและบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร จังหวัดปทุมธานี