กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--ชมรมควบคุมระบบขับถ่ายปัสสาวะ แห่งประเทศไทย
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับกิจกรรมดีๆ อย่าง Men’s Health Get START Get STRONG “หนุ่มใหญ่สมวัย สุขภาพดีได้ ไม่อายใคร” ซึ่งจัดโดย ชมรมควบคุมระบบขับถ่ายปัสสาวะ แห่งประเทศไทย เพื่อปลุกกระแสชายไทยใส่ใจสุขภาพ เรียนรู้พร้อมเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคต่อมลูกหมากโต ภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานไว และอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย พร้อมวิธีการรักษาและป้องกันอย่างถูกต้อง โดย ฮาร์ท - สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล และดอกดิน กัญญามาลย์ ร่วมงานเชิญชวนคนไทยใส่ใจดูแลสุขภาพ ณ บริเวณศาลาแปดเหลี่ยม สวนลุมพินี กรุงเทพฯ
กิจกรรมเอาใจคนรักสุขภาพอย่าง Men’s Health Get START Get STRONG “หนุ่มใหญ่สมวัย สุขภาพดีได้ ไม่อายใคร” จัดขึ้นในบรรยากาศร่มรื่น และสดชื่น ภายในสวนลุมพินี เต็มไปด้วยผู้ร่วมงานที่มากันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เพื่อร่วมประเมินปรึกษาปัญหาสุขภาพเบื้องต้น จากทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดย ศ.นพ.วชิร คชการ ประธานกรรมการ ชมรมควบคุมระบบขับถ่ายปัสสาวะ แห่งประเทศไทย ร่วมให้ความรู้ในการเสวนา “ไขเรื่องลับๆ สำหรับสุขภาพเพศชาย ที่ไม่ต้องอายกันอีกต่อไป” ในครั้งนี้ว่า “ปัจจุบันด้วยวิถีชีวิต หรือไลฟ์สไตล์ ของคนในสังคมเมืองที่มีความเร่งรีบ ส่งผลให้พฤติกรรมสุขภาพเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายไทยในปัจจุบันที่เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน ต้องเผชิญกับภาวะความเครียด ความกดดัน จากความรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่การงานที่มากขึ้นตามลำดับ จนทำให้บางครั้งอาจหลงลืมดูแลสุขภาพของตัวเองไป ประกอบกับการพักผ่อนน้อย การรับประทานอาหารที่ได้โภชนาการที่ไม่เพียงพอ ไม่ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแบบสะสม ซึ่งเมื่อเริ่มย่างเข้าสู่วัย 40 ปีขึ้นไป อันเป็นวัยที่มีความเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมนในร่างกายที่เริ่มลดระดับลง จึงส่งผลทางอารมณ์ จิตใจ และสมรรถภาพทางเพศ กลายเป็นภัยเงียบที่ก่อให้เกิด 3 ปัญหาสุขภาพเพศชายยอดฮิต ได้แก่ โรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมากโต ภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานไว และอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย ซึ่งเมื่อหากละเลยการดูแลสุขภาพ ก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวเองรวมถึงคนรอบข้าง”
น.อ.น.พ.สนธิเดช ศิวิไลกุล ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมระบบปัสสาวะ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ กล่าวถึงโรคต่อมลูกหมากว่า “พบมากในเพศชายอายุตั้งแต่ 40 ปี โดยเฉพาะในช่วงอายุ 50-60 ปี โดยมีอาการต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ไปกดเบียดทางเดินปัสสาวะ และทางออกของปัสสาวะมีการหดเกร็งมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้ท่อปัสสาวะแคบลง เป็นผลให้ปัสสาวะลำเล็กลง ปัสสาวะไม่พุ่ง ปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืนหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะขัด ใช้เวลาปัสสาวะนาน
ด้าน รศ.นพ.อภิรักษ์ สันติงามกุล ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมระบบปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวเสริมเกี่ยวกับการรักษาโรคต่อมลูกหมากว่า “แนวทางการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตในผู้ป่วยแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป เช่น ในผู้ป่วยที่มีอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน รักษาได้โดยไม่ต้องใช้ยาเพียงแค่หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก็สามารถทำให้อาการดีขึ้นได้โดยไม่ต้องทานยา หากอาการไม่ดีขึ้นก็จะให้ยาที่ช่วยลดการกระตุ้นจากระบบประสาทบริเวณ หูรูดกระเพาะปัสสาวะและต่อมลูกหมาก สำหรับในผู้ป่วยที่มีอาการปัสสาวะบ่อย กลั้นไม่ได้ ก็อาจจำเป็นต้องให้ยาที่มีผลกับ
กระเพาะปัสสาวะร่วมด้วย ในผู้ป่วยบางรายที่การให้ยาไม่ได้ผล หรือมีอาการปัสสาวะไม่ออกเลยจนถึงขั้นต้องใส่สายสวนปัสสาวะ ทั้งๆ ที่รับประทานยาอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดไม่เคยขาด ก็จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดต่อมลูกหมากผ่านการส่องกล้องเพื่อให้กลับมาปัสสาวะได้”
นพ.วสันต์ เศรษฐวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมระบบปัสสาวะ โรงพยาบาลเลิดสิน ได้กล่าวถึง ภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานไว หรือ โอเอบี ว่า “โรคนี้พบได้ในผู้ป่วยทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป มีอาการที่ผู้ป่วยต้องรีบเข้าห้องน้ำทันทีที่ปวดปัสสาวะไม่สามารถกลั้นหรือผัดผ่อนได้ (Urgency) บางคนอาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่จนมีปัสสาวะเล็ดราดออกมาก่อนไปถึงห้องน้ำ (Urge incontinence) หรืออาการปัสสาวะบ่อย (Frequency) คือ ปัสสาวะมากกว่า 8 ครั้งต่อวัน หรือตื่นกลางดึกเพื่อถ่ายปัสสาวะ (Nocturia) ร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ อาการอาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถยืนยันถึงสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากกล้ามเนื้อผนังกระเพาะบีบตัวบ่อยกว่าปกติ สำหรับการรักษาต้องทำควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การฝึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และการใช้ยาเพื่อให้ได้ผลสูงสุด ส่วนผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษานี้อาจต้องใช้ยาฉีดเข้าผนังกระเพาะปัสสาวะเพื่อลดการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น งดดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์”
นพ.จรัสพงศ์ ดิศรานันท์ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ เปิดเผยถึง อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือ โรคอีดี (Erectile Dysfunction) ว่า “อาการที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัว หรือแข็งตัวได้ไม่นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ มีสาเหตุมาจากเส้นเลือดตีบ เส้นประสาทเสื่อม ซึ่งเกิดจากโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ปัจจุบันนี้เข้าใจว่าอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศและอาการต่อมลูกหมากโต อาจจะมีสาเหตุร่วมกัน เนื่องจากพบร่วมกันได้มาก การรักษาสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การตรวจร่างกายในห้องปฏิบัติการ เช่น เบาหวาน ไขมัน การทำงานของตับ ไต ในบางรายที่ความต้องการทางเพศลดลง หรือตรวจร่างกายพบลูกอัณฑะขนาดเล็ก จำเป็นต้องได้รับการตรวจฮอร์โมนเพศชายร่วมด้วย รวมถึงการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การออกกำลังกาย การงดสูบบุหรี่ การลดน้ำหนัก และการรับประทานยา การใช้ปั๊มสุญญากาศ การใช้ยาฉีดหรือการผ่าตัดใส่แกนอวัยวะเพศ หรือใช้หลายๆ วิธีร่วมกัน ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ”
ด้าน ดอกดิน กัญญามาลย์ ศิลปินแห่งชาติวัย 90 ปี ที่มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เปิดเผยว่า “ผมเริ่มมีอาการแรกเริ่มของการเป็นโรคต่อมลูกหมาก คือปัสสาวะไม่ออกเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา โดยช่วงที่ผมทำงานต่างจังหวัดเวลาปวดปัสสาวะขึ้นมาก็จะอั้นเอาไว้ จนกระทั่งปัสสาวะไม่ออก ผมก็จะดื่มน้ำ เพื่อให้สามารถขับปัสสาวะออกมาได้ แต่ยิ่งดื่มน้ำมากๆ ก็ยังไม่สามารถขับออกมาได้จนกระทั่งท้องบวม จึงได้รีบไปพบคุณหมอ และได้ทานยาตามที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัด อาการของผมก็เริ่มดีขึ้น สามารถปัสสาวะออกเป็นปรกติ จึงอยากฝากถึงคุณผู้ชายทุกคนว่าโรคนี้สำคัญมากสำหรับผู้ชาย หากมีอาการที่น่าสงสัยควรจะรีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ”
ปิดท้ายด้วยพิธีกรรับเชิญในวันนี้ ฮาร์ท - สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล เปิดเผยถึงวิธีการดูแลสุขภาพว่า “สำหรับวิธีการดูแลสุขภาพของผมที่สำคัญคือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอซึ่งสิ่งที่ผมทำอยู่ก็คือ การปั่นจักรยานอยู่เป็นประจำ และพยายามทำจิตใจให้ สดชื่นแจ่มใส อารมณ์ดีอยู่เสมอ ไม่เครียด และหมั่นไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพอยู่เป็นประจำ ก็สามารถป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ได้ครับ”
หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้ และพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษาและขจัดความเสี่ยง เพื่อความเป็นหนุ่มใหญ่สมวัย สุขภาพดี ไม่อายใคร ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด และคุณผู้ชายไม่ควรมองข้ามกันอีกต่อไป