กรุงเทพ--12 มิ.ย.--สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
บอร์ดบีโอไอ เร่งฟื้นฟูธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และดึงดูดเม็ดเงินต่างประเทศ เปิดประเภทส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พร้อมเสนอให้แก้ไข ปว.281 โดยออกพระราชกฤษฎีกาผ่อนปรนให้ต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างได้ในกรณีที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน
นายสถาพร กวิตานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2541 ซึ่งมีนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเปิดให้การส่งเสริมการลงทุนแก่การประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยให้สิทธิประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวกับภาษีอากร และกำหนดเงื่อนไขในการส่งเสริมเฉพาะอาคารสำนักงานและคอนโดมิเนียมที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติอาคารชุด หรืออาคารสูงที่ก่อสร้างไปแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของโครงการทั้งหมด นับจากวันที่ออกประกาศ 3 เดือน
สืบเนื่องจากภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศประสบปัญหาซบเซา มีอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัย ซึ่งสร้างเสร็จแล้วหรืออยู่ในระหว่างก่อสร้างเกินความต้องการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ เมื่อคิดรวมมูลค่าของพื้นที่ว่างและห้องว่างของอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานและคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้ว ณ สิ้นปี 2540 จะมีมูลค่ารวมกันประมาณ 130,000 ล้านบาท และจากตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ สิ้นปี 2539 พบว่าสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ปล่อยกู้ให้แก่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 24.3 ของยอดการปล่อยกู้ทั้งหมดเปรียบเทียบกับร้อยละ 14.8 ในปี 2531
นายสถาพร กล่าวว่า แม้พระราชบัญญัติอาคารชุดได้ผ่อนผันให้คนต่างชาติถือครองอาคารชุดได้ร้อยละ 40 แต่ในปัจจุบันยังมีการขายให้คนต่างชาติจำนวนน้อยมาก เพียงร้อยละ 17 ของจำนวนอาคารชุดทั้งหมดเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติบางรายไม่สนใจที่จะซื้ออาคารชุดเพียงบางส่วน แต่ต้องการซื้อเป็นชุดหรือทั้งหลัง เพื่อวัตถุประสงค์ให้เช่าหรือจำหน่ายต่อไป ดังนั้นหากมีการผ่อนผันให้ต่างชาติสามารถซื้ออาคารชุดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะมีช่วยเร่งรัดให้เกิดการตัดสินใจเข้าลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โดยเฉพาะการซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเอกชนที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง และยังเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาอสังหาริมทรัพย์ที่ล้นตลาดอยู่ในปัจจุบันด้วย
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังเห็นควรให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อกำกับดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สมาคมภาคเอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิด้านอสังหาริมทรัพย์ และเห็นควรให้มีการแก้ไข ปว.281 โดยออกพระราชกฤษฎีกาผ่อนปรนให้คนต่างด้าวหรือนิติบุคคลต่างด้าว สามารถประกอบธุรกิจค้าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวได้ หากได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อจูงใจให้คนต่างด้าวเข้ามาลงทุนซื้อขายประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เนื่องจากเดิม "กิจการค้าที่ดิน" เป็นกิจการต้องห้ามสำหรับคนต่างชาติตามบัญชี ก.ท้ายประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 281 รวมทั้งเห็นควรให้แก้ไขพระราชบัญญัติอาคารชุด เพื่อให้คนต่างด้าวสามารถเช่าหรือจำหน่ายอาคารชุดได้ทั้งโครงการต่อไปด้วย
สำหรับการดำเนินการขั้นต่อไปจะได้มีการนำข้อเสนอนี้ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป--จบ--