กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,168 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,170เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.68 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,000 บาท กับ 18,100บาท และกลับมาปิดที่ 18,000บาท กับ 18,100 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 857 คู่สัญญาแบบ10 บาทอยู่ที่ 6,799 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.95% แบบ10 บาท เพิ่มขึ้น 4.39% GFZ14 ปิด 18,240 บาท และ GFG14 ปิด 18,300 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,230 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,290 บาท
สัญญา Comex ลดลง 1.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,169.8 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.76 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 78.78 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 741.21 ตัน (ซื้อเพิ่ม 0.01 ตัน)
ข่าวที่สำคัญ
-ทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ ทำให้เฟดมีแนวโน้มจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด
-นักวิเคราะห์ ระบุว่า แนวโน้มราคาทองคำในปีนี้จนถึงช่วงต้นปีหน้า จะยังคงได้รับแรงกดดันในทิศทางขาลง จากการแข็งค่าของดอลลาร์ที่ขานรับกับกระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยมีโอกาสจะส่งผลให้เกิดการ Reverse Dollar Carry Trade เนื่องจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้การกู้ยืมเพิ่มสูงขึ้น และกลุ่มนักลงทุนที่กู้ดอลลาร์มาลงทุนจะเริ่มทยอยชำระคืนเงินกู้
-เมื่อวานนี้ SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.01 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 741.21 ตัน
-นักวิเคราะห์จากคิทโก กล่าวว่า ในเชิงเทคนิคยังคงเห็นภาพหลักของราคาทองคำเป็นทิศทางขาลง หลังจากไม่สามารถกลับมายืนเหนือบริเวณ 1,183 เหรียญได้อย่างแข็งแกร่ง จึงคาดว่าในวันนี้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,155 – 1,175 เหรียญ
-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2489 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2527 ยูโร/ดอลลาร์ จากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ จึงสนับสนุนให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่อีซีบีและบีโอเจดำเนินมาตรการการเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
-อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนที่ระดับ 113.78 เยน จากระดับ 112.29 เยน
-สถาบัน ISM เผยว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 59 จากเดิม 56.6 ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
-ขณะที่ผลสำรวจจากสถาบันมาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 55.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
-หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมาร์กิต กล่าวว่า ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของสหรัฐฯยังคงมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่เป็นการฟื้นตัวที่ชะลอความแรงลงในช่วงเริ่มต้นไตรมาสที่ 4 เพราะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ด้านการส่งออกที่เปราะบางของยูโรโซนและตลาดเกิดใหม่ แต่จะเห็นได้ว่าภาวะการจ้างงานในภาคการผลิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯจะยังแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4/2014
-ทางด้าน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคมของยูโรโซน ปรับตัวขึ้น 50.6 จากเดิมที่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน 50.3 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของยูโรโซนยังอยู่ในภาวะชะงักงัน เนื่องจากอุปสงค์ด้านการผลิตยังคงอ่อนแอและขัดขวางการขยายตัวของภาคการผลิตและการจ้างงานในภูมิภาค
-ราคาน้ำมันดิบร่วงลง 1.76 ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงกดดันจากมีรายงานระบุว่า การปิโตรเลียมของซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ทำการส่งออกให้กับสหรัฐฯ
-ธนาคารกลางฮ่องกง กล่าวว่า การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่ยืดเยื้ออาจทำลายเสถียรภาพทางการเงินของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกได้
-นักวิเคราะห์ระบุว่า ในวันนี้จะมีผู้มาลงคะแนนเสียงไม่มากนัก สำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ โดยเป็นการชิงที่นั่งในสภาคองเกรสให้ได้มากสุด ระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคเดโมแครต และพรรคฝ่ายค้านรีพับลิกัน
-อย่างไรก็ดี มีกระแสคาดการณ์ว่า พรรครีพับลิกันมีโอกาสจะได้ที่นั่งเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าการบริหารของโอมาสทำให้ประเทศเดินหน้าผิดทาง
-ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.14% เพราะได้รับแรงกดดันจากการ่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจากซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาน้ำมันดิบให้กับสหรัฐฯ
-เช้านี้ดัชนีนิกเกอิ เปิด +4.05% (665.12 จุด) แตะ 17,078.88 จุด โดยเป็นการทำสถิติพุ่งขึ้นเหนือระดับ 17,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม 2007 เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นสู่กรอบบน 113 เยน หลังบีโอเจผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม
-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้ระหว่าง 32.55 – 32.75 บาท/ดอลลาร์ ยังคงรอปัจจัยใหม่ๆ และการประชุมกนง.
-สศค. ระบุว่า กรณีบีโอเจมีมติผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม จะส่งผลให้ตลาดการเงินมีความผันผวนมากขึ้น และมีโอกาสจะได้เห็นภาวะ Carry Trade ในสหรัฐฯ และออสเตรเลียได้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน
-ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 56.6 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 59
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
-Factory Orders ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -10.1% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.4%
-Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -40.1B ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -40.0B
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบบริเวณล่างระหว่าง 1,165-1,170 เหรียญ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าสู่ระดับ 32.75 บาท/ดอลลาร์ และเมื่อวานนี้ SPDR มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มเล็กน้อย 0.01 ตัน สู่ระดับ 741.21 ตัน สำหรับคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญได้แก่ Trade Balance และ Factory Orders คาดว่าจะดีขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคดูราคาทองคำดูจะเป็นการสะสมพลัง ในระยะกลางกับยาวเป็นแนวโน้มขาลง วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,150 – 1,175 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงแนะนำให้ลงทุนในแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง หาจังหวะเปิดสถานะ Short Position และทยอยปิดหรือลดสถานะ Long Position โดยต้องหาจังหวะปิดความเสี่ยงของราคาขึ้นลงให้ดี
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะทยอยปิดหรือลดสถานะลง
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะเปิดสถานะ เก็งกำไรเป็นช่วงๆ หาจังหวะเปิด Short Position บริเวณแนวต้าน
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
เก็งกำไรในแนวโน้มขาลง เนื่องจากภาพหลักของทองคำทั้งระยะกลางและระยะยาวยังคงเป็นแนวโน้มขาลง
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,140 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,340 บาท
Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,400 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. พบบูธ MTS Gold ภายในงาน “มหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 9” (Money Expo Chiangmai 2014) ในวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2557 เวลา 10.00-20.00น. ณ เชียงใหม่ฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซ่า จ.เชียงใหม่ สอบถามรายละเอียด MTS Gold Futures สาขาเชียงใหม่ 053-232-703
2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 2) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777
(เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา).
3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: research@mtsgoldgroup.com
Website: http://www.mtsgold.co.th