กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--worklink da agency
PPS เผยธุรกิจก่อสร้างโค้งสุดท้ายยังไม่คึกคัก เอกชนกำลังรอดูความชัดเจนภาวะเศรษฐกิจ และนโยบายเดินหน้าเมกะโปรเจกต์ภาครัฐที่เป็นรูปธรรม คาดไตรมาส 2 ปีหน้าจะเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง เดินหน้าเตรียมความพร้อมรับงานขนาดใหญ่ พร้อมเสนองานใหม่ต่อเนื่องโกยงานปีหน้า ขณะที่งานออกแบบแข่งขันสูงเน้นรับงานต่างประเทศ
นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)(PPS) ผู้ดำเนินธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้าง และงานออกแบบด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจก่อสร้างในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปี 58 จะยังไม่คึกคักตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศ ความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐในช่วงต้นปีต่อกลางปี ส่งผลให้การลงทุนโครงการก่อสร้างในภาคธุรกิจต่างๆมีการชะลอตัวตามปัจจัยดังกล่าว
“งานก่อสร้างที่เกิดขึ้นในปัจจุบันโดยส่วนมากเป็นงานโครงการเก่า ที่มีการดำเนินการหรือเปิดขายไปในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว โดยโครงการส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมยังไม่มีโครงการใหม่ทยอยออกมามากนัก เนื่องจากเจ้าของโครงการเกือบทุกภาคธุรกิจยังต้องการรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ ตลอดจนนโยบายการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐที่เป็นรูปธรรมดังนั้นงานโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการในภาคเอกชนกำลังอยู่ในขั้นการวางเเผนเเละออกเเบบ ซึ่งคาดว่าภายในช่วงไตรมาสสองปี 58 น่าจะเริ่มมีการดำเนินการก่อสร้างโครงการและเป็นปัจจัยผลักดันให้ธุรกิจก่อสร้างกลับมาคึกคักอีกครั้งตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์” นายธัช กล่าว
อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อรองรับงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการหาพันธมิตรทางธุรกิจ การเพิ่มความเชี่ยวชาญพิเศษให้บุคลากร การเพิ่มศักยภาพในการเข้ารับงานภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีการเสนองานบริหารโครงการใหม่ของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นงานโครงการในกลุ่มค้าปลีก สำนักงาน และคอนโดมิเนียมที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการในปี 2558
ส่วนงานด้านออกแบบด้านวิศวกรรม และสถาปัตยกรรมในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงขึ้น เนื่องจากมีงานโครงการขนาดใหญ่ออกมาน้อย ส่งผลให้บริษัทออกแบบต่างๆต้องเข้ารับงานที่มีออกมาทุกประเภท ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งเน้นการเข้ารับงานออกแบบโครงการในต่างประเทศ เนื่องจากมีความต่อเนื่องของงานและมีโอกาสในการเข้ารับงานสูงกว่า เเละมีความกดดันด้านราคาการให้บริการต่ำกว่า โดยล่าสุดบริษัทมีการรับรู้รายได้จากงานออกแบบในประเทศเคนย่าคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.5ล้านบาท