กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,166 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,168 เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.69 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,000 บาท กับ 18,100บาท และกลับมาปิดที่ 18,000บาท กับ 18,100 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 436 คู่สัญญาแบบ10 บาทอยู่ที่ 3,973 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2% แบบ10 บาท ลดลง 5% GFZ14 ปิด 18,220 บาท และ GFG14 ปิด 18,280 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,230 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,280 บาท
สัญญา Comex ลดลง 2.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,167.7 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.59 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 77.19 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 738.82 ตัน (ขายออก 2.39 ตัน)
ข่าวที่สำคัญ
-ทองคำปิดปรับตัวลดลงติดต่อกัน 5 วันทำการ และยังคงถูกกดดันใกล้เข้าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี เพราะได้รับแรงกดดันจากการเทขายของนักลงทุน รวมถึงการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ
-นอกจากนี้ ปริมาณความต้องการทองคำที่เบาบาง และสัญญาณทางเทคนิคยังคงแสดงให้เห็นว่าราคาทองคำมีโอกาสจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากราคาทองคำหลุดต่ำกว่าระดับ 1,180 เหรียญ ราคาทองคำมีโอกาสถูกแรงเทขายและไปทดสอบบริเวณ 1,161.25 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในเดือนกรกฎาคม 2010
-นักวิเคราะห์จาก Kitco แนะนำให้จับตาบริเวณ 1,000 เหรียญ ซึ่งจะเป็นระดับสำคัญสำหรับทองคำในเชิงเทคนิคที่ราคาทองคำอาจลงไปทดสอบได้
-นักวิเคราะห์จากสกอเทียโมคัตตา ระบุว่า ในเชิงเทคนิคราคาทองคำมีความเสี่ยงที่จะเกิดการหลุดต่ำกว่าระดับ 1,155 เหรียญ ซึ่งหากราคาสามารถปิดและทรงตัวบริเวณ 1,200 เหรียญได้อีกครั้ง อาจส่งผลให้แนวโน้มทองคำเปลี่ยนจากทิศทางขาลงได้
-เมื่อวานนี้ SPDR ลดการถือครองทองคำลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 2.39 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 738.82 ตัน
-ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2556 ยูโร/ดอลลาร์ จากเดิม 1.2489 ยูโร/ดอลลาร์ หลังข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาแย่ลง จึงส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าสูงขึ้นเกินคาด และเกิดความกังวลว่าอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวจะสร้างแรงกดดันต่อสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงนักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีโอกาสเข้าสู่ภาวะชะลอตัวในไตรมาสที่ 4 นี้
-เมื่อวานนี้ยอดขาดดุลการค้าเดือนกันยายนของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น 7.6% แตะระดับ -4.303 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิม -4.0 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากยอดส่งออกปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนจากการชะลอตัวของอุปสงค์ทั่วโลก จึงส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ
-ขณะที่ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนกันยายนสหรัฐฯ ปรับตัวลง -0.6% จากระดับ -10.0% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด จึงแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐฯเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว
-อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า โดยภาพรวมสภาพเศรษฐกิจอเมริกาอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างดี และจะยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 4 ขณะที่อัตราคนว่างงานมีโอกาสจะปรับตัวลงสู่ระดับ 5.5% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
-คณะกรรมาธิการยุโรป ปรับลดคาดการณ์จีดีพียูโรโซนในปีนี้ สู่ระดับ 0.8% จากเดิม 1.2% ขณะที่ปี 2015 คาดจะขยายตัว 1.1% จากคาดการณ์เดิม 1.7% เพราะได้รับการขาดแคลนอุปสงค์ภายในประเทศ โดยเฉพาะภาคการลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการขยายตัวที่สำคัญ
-นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า การประชุมอีซีบีในวันพรุ่งนี้ อีซีบีอาจประกาศเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม หลังพบว่าภาพรวมเศรษฐกิจของยูโรโซนอยู่ในภาวะชะลอตัว
-เทรดเดอร์ ระบุว่า การเคลื่อนไหวในตลาดน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบีย โดยการปรับลดราคาส่งออกให้แก่สหรัฐฯครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะรักษาส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันโลกที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง
-นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ทิศทางและแนวโน้มของราคาน้ำมันดิบทั่วโลกในช่วงปลายปีนี้ถึงปี 2015 จะยังคงมีความผันผวน ซึ่งในปีหน้าจะเห็นราคาทรงตัวในระดับสูงกว่าปัจจุบัน
-ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯในเขตเวอร์จิเนีย พบว่าคะแนนของพรรครีพับลิกันได้รับคะแนนเสียงส่วนมาก และมีโอกาสส่งผลให้ชนะในการครองเก้าอี้ในสภามากที่สุด
-เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิด +0.10% อย่างไรก็ดี ตลาดมีการซื้อขายอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบร่วงลงเมื่อคืนนี้
-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.60 – 32.75 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดจับตารอผลการประชุมกนง.ในวันนี้
-นักวิเคราะห์ตลาดการเงินไทย ระบุว่า กนง. จะยังคงมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2% ในการประชุมวันนี้ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจไทยที่เพิ่งกลับมาขยายตัว ให้มีศักยภาพมากขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันจากภาคบริโภคที่ฟื้นตัวจำกัด ภาคการลงทุนอ่อนแรง และมีความเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืดและหนี้ครัวเรือน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ระดับต่ำ
-เมื่อวานนี้ ครม. มีมติอนุมัติวงเงินในโครงการชดเชยดอกเบี้ยการเก็บสต๊อกข้าวประจำปี 2557 และปี 2558 เป็นจำนวน 612 ล้านบาท
-10 พ.ย. 57 รัฐบาลจะมีการสรุปโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผน 8 ปี ในวงเงิน 3 ล้านล้านบาท
-11 พ.ย. 57 กระทรวงการคลังเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีรับมรดกให้ ครม. พิจารณา ทั้งนี้การปฏิรูปภาษีมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน
-Factory Orders ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -10.1% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ -0.6%
-Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -40.1B ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ -43.0B
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
-ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 213K ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 214K
-ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 58.6 ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 58.2
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในโซนด้านล่างบริเวณ 1,165 – 1,170 เหรียญ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาออกมาแย่ลงเล็กน้อย โดย Trade Balance มียอดขาดดุลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ตัวเลขFactory Orders ออกมาดีขึ้น และเมื่อวานนี้ SPDR มีการขายออก 2.39 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 738.82 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways ในกรอบ 1,160-1,175 เหรียญ วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวลักษณะ Sideways ต่อไป โดยมีแนวรับแรก 1,160 เหรียญ และแนวรับสอง 1,150 เหรียญ ขณะที่แนวต้านแรกบริเวณ 1,175 เหรียญ และแนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,180 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เล่นเก็งกำไรตามกรอบแคบ ตามสภาวะการแกว่งตัวของตลาด
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position
ทำการปรับสถานะในสภาวะตลาด Sideways โดยมองระยะยาวเป็นขาลง
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
ปรับพอร์ตให้สมดุล โดยภาพหลักตลาดยังเป็นทิศทางขาลง
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,120 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,320 บาท
Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,180 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,380 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. พบบูธ MTS Gold ภายในงาน “มหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 9” (Money Expo Chiangmai 2014) ในวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2557 เวลา 10.00-20.00น. ณ เชียงใหม่ฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซ่า จ.เชียงใหม่ สอบถามรายละเอียด MTS Gold Futures สาขาเชียงใหม่ 053-232-703
2. เรียนเชิญนักลงทุนเข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “Technical Class : ทำกำไรในทองคำโดยใช้กราฟเทคนิค” (Level 2) ร่วมบรรยายโดย นพ. กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2557 ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น17 เวลา 15.00-17.00น. รับจำนวนจำกัด 40 ที่นั่ง สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ MTS Gold Call Center: 02 770 7777
(เปิดรับเฉพาะสมาชิกของบริษัท MTS Gold และ MTS Gold Futures เท่านั้น หากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกต้องมีการเปิดบัญชีก่อนเข้าร่วมงานสัมมนา).
3. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: research@mtsgoldgroup.com
Website: http://www.mtsgold.co.th