ฟิทช์ประกาศให้อันดับเครดิตแก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 5, 2014 16:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) แก่ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) (BOCT) ที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+ (tha)’ ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต อันดับเครดิตของ BOCT สะท้อนถึงการที่ฟิทช์คาดว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากธนาคารแห่งประเทศจีน จำกัด หรือ BOC (อันดับเครดิตสากลระยะยาวที่ ‘A’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งเป็นธนาคารแม่ ฟิทช์พิจารณาว่า BOCT เป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อกลุ่ม BOC เนื่องจาก BOCT ช่วยสนับสนุนเครือข่ายธุรกิจของกลุ่ม BOC ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ BOCT มีความเชื่อมโยงในการดำเนินงานในระดับสูงกับกลุ่ม การสนับสนุนทางการเงินที่ BOCT ได้รับจากธนาคารแม่ในอดีต และธนาคารแม่มีสัดส่วนในการถือครองหุ้นของ BOCT เกือบทั้งหมด เนื่องจาก BOCT มีการใช้ชื่อและเครื่องหมายการค้าของ BOC ดังนั้นหากมีเหตการณ์ที่ส่งผลในแง่ลบต่อ BOCT อย่างมีนัยสำคัญ เช่น การผิดนัดชำระหนี้ อาจส่งผลกระทบในด้านชื่อเสียงต่อกลุ่ม BOC เมื่อเดือนสิงหาคม 2557 BOC ได้ทำการโอนถ่ายธุรกิจทั้งหมดในสาขากรุงเทพไปที่บริษัทลูกที่ถูกจัดตั้งขึ้นใหม่ซึ่งคือBOCT พอร์ทสินเชื่อของ BOCT กระจุกตัวอยู่ในลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ (Corporate sector) โดยส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ยืมและสินเชื่อการค้าระหว่างประเทศ (โดยเฉพาะระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน) BOCT เป็นธนาคารขนาดค่อนข้างเล็กในประเทศไทยโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 0.2% ในด้านสินเชื่อ และ 0.1% ในด้านเงินฝาก แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ที่มองว่าโอกาสที่ BOC จะให้การสนับสนุนแก่ BOCT ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาอันสั้น ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต เนื่องจากอันดับเครดิตของ BOCT สะท้อนถึงการสนับสนุนจาก BOC ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตของ BOC อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของ BOCT การเปลี่ยนแปลงของโอกาสที่ BOC จะให้การสนับสนุนแก่ BOCT อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของ BOCT กรณีตัวอย่างเช่น การที่มีสัญญาณใดๆ ก็ตามที่แสดงให้เห็นว่าระดับความสำคัญของ BOCT ต่อกลุ่มปรับตัวลดลง เช่น การลดสัดส่วนการถือหุ้นใน BOCT ของกลุ่มหรือการลดลงของระดับความเชื่อมโยงในการดำเนินงาน (integration) ระหว่าง BOCT กับกลุ่ม อาจส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิตลง อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง อันดับเครดิตภายในประเทศปัจจุบันของ BOCT เป็นอันดับเครดิตที่สูงสุดแล้ว จึงไม่สามารถปรับขึ้นได้อีก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ