กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--เวิรฟ
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว นวัตกรรมยานยนต์ และเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยในรถเพื่อการพาณิชย์ สำหรับแชสซีรถโดยสารรุ่นใหม่ล่าสุด OC500RF1836 และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ Sprinter เจาะกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจหลากหลายประเภท เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ปี 2558 ในงาน Bus & Truck 2014 ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและ การประชุมไบเทค บางนา
มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ในขณะนี้ มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี แผนการลงทุน ในโครงการต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 จะช่วยสนับสนุนให้ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์เติบโตได้ สำหรับบริษัทฯได้เข้ามาทำตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2548 โดยได้ทำการส่งมอบกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์ไปแล้วมากกว่า 1,000 คัน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการทั้งในภาคธุรกิจสื่อสาร ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจรถเช่า ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจขนส่ง รวมถึงบุคคลทั่วไปและครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง ทำให้ยอดจำหน่ายเติบโตขึ้นซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง เซกเม้นต์ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ให้ความสำคัญ”
“สำหรับงานแสดงรถเพื่อการพาณิชย์และกิจการพิเศษ ครั้งที่ 11 หรือ Bus & Truck 2014 เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการตลาดของแผนกรถเพื่อการพาณิชย์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้ประกอบการภาคธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจรถโดยสารทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง โลจิสติกส์ และธุรกิจการคมนาคม ซึ่งทางบริษัทฯ ได้นำรถเพื่อการพาณิชย์รุ่นใหม่เข้ามา จัดแสดง 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ แชสซีรถโดยสาร Samano Chassis OC500RF1836 และ Mercedes-Benz Sprinter ซึ่งในปีนี้คาดว่าทั้งแชสซีรถโดยสารและรถตู้ Mercedes-Benz Sprinter จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี บริษัทฯ มองว่า ตลาดรถโดยสารหรือรถบัสและ รถตู้ระดับพรีเมี่ยมเป็นตลาดที่กำลังขยายตัวและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยไลฟ์สไตล์ ของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายและความปลอดภัยสูงสุด อีกทั้งภาครัฐฯ ยังได้มีการขยายเส้นทางการคมนาคมไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเตรียมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างการศึกษา และเจรจา ที่จะเปิดเส้นทางทั้งในประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งบางเส้นทางได้เปิดให้บริการมาระยะหนึ่งแล้ว ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยว และโลจิสติกส์ขยายตัวขึ้น ด้วยเหตุนี้ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์จึงเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ ไม่แพ้กับตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล” มร. เกรเว่ กล่าวเสริม
แชสซีรถโดยสาร รุ่น OC500RF1836
แชสซีรถโดยสารใหม่นำเข้าจากประเทศสเปน รุ่น OC500RF1836 เป็นโครงขนาดความยาว 12 เมตรได้รับการออกแบบสำหรับตัวถังรถโดยสารให้มีขนาดความกว้างสูงสุดได้ที่ 2.55 เมตรและความยาวที่ 12 เมตร สำหรับแชสซีรถโดยสารรุ่นใหม่นี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์อันทรงพลัง OM457LA เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ มีความจุกระบอกสูบ 11,967 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 260 กิโลวัตต์ (354 แรงม้า) ที่ 2,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด (Torque)ที่ 1,600 นิวตัน-เมตร ที่ 1,100 รอบต่อนาที สำหรับระบบส่งกำลัง แชสซีรุ่นนี้ติดตั้งด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ (ZF Ecolife) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนีสำหรับรถโดยสาร อีกทั้งยังได้รับ การตอบรับจากผู้ประกอบการอย่างกว้างขวาง ทั้งในประเทศและนอกประเทศโดยระบบเกียร์ดังกล่าว แบ่งเป็นเดินหน้า 6 สปีด และถอยหลัง 1 สปีด สามารถควบคุมโดยปุ่มเปลี่ยนเกียร์ แบบ 6 สวิทช์ เพื่อให้การขับขี่ที่นุ่มนวล ทั้งทางราบและทางลาดชัน โดยเมื่อถูกติดตั้งพร้อมกับแชสซี OC500RF1836 ซึ่งมีระบบเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Telligent® Engine Management) ควบคุมและจัดการโดยระบบอิเล็คทรอนิคส์ภายในตัวรถรวมถึงระบบยูนิตปั๊ม โดยระบบ ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอีกทั้งยังช่วยส่งให้แรงบิดสูงและเสถียรขึ้นในรอบเครื่องยนต์ ที่ต่ำช่วยยืดอายุการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้การจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้สูงถึง 5%
ยิ่งไปกว่านั้น ระบบความปลอดภัยซึ่งถือเป็นระบบที่ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญ และพัฒนามาตลอด โดยสำหรับแชสซีรถโดยสาร OC 500 RF 1836 เพียบพร้อมไปด้วย ระบบความปลอดภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกแบบ Electronic Braking System (EBS) พร้อมดิสค์เบรกทุกล้อ ระบบป้องกันล้อล๊อค (ABS) ระบบป้องกันการลื่นไถล (ASR) โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Electronic Stability Program (ESP®) ที่ช่วยให้การทรงตัวเข้าโค้งสมบูรณ์แบบ พร้อมกันนี้ยังมีระบบอิเล็คทรอนิคส์ ซึ่งทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยต่างๆ ทำให้การปรับแรงดันเบรกรวดเร็วและแม่นยำ ให้ความรวดเร็วในการทำงาน ของระบบเบรกลม ช่วยลดระยะการเบรกให้สั้นลงเมื่อเทียบกับระบบเบรกโดยทั่วไป นอกจากนี้ระบบเบรกยังทำงาน ร่วมกับอินทาร์ดเดอร์ (Intarder) ซึ่งติดตั้งมาในชุดเกียร์ ZF Ecolife ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกเพิ่มสูงขึ้นให้ความปลอดภัยในการขับขี่และการโดยสารตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ ยังมีระบบเตือนความร้อน บริเวณห้องเครื่องยนต์ (Fire Detection System) ซึ่งเป็นเซนเซอร์ติดตั้งโดยรอบห้องเครื่องยนต์ โดยระบบดังกล่าวได้มาตรฐานตามข้อกำหนด ทางยุโรป และจะแจ้งเตือนบนหน้าจอผู้ขับทราบอีกด้วย ในเรื่องความสะดวกสบาย เพลาหน้าของแชสซีรุ่นนี้เป็นแบบอิสระหรือเรียกว่าปีกนก (Independent Suspension) ซึ่งให้ ความนุ่มนวลในการเดินทาง อีกทั้งเพลาขับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีความคงทน แข็งแรง อายุการใช้งานที่ยาวนาน ที่สำคัญสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 12.6 ตัน และสำหรับระบบปรับอากาศ แชสซีดังกล่าวมาพร้อมกับคอมเพรสเซอร์จากโรงงานโดยติดตั้งบนเครื่องยนต์เพื่อช่วยขจัดปัญหาระบบสายพาน ลดแรงสั่นสะเทือน ทำให้ห้องโดยสาร เงียบยิ่งขึ้น
Mercedes-Benz Sprinter รถตู้ระดับพรีเมี่ยมเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจหลากหลายแบบ
ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำหน้า Mercedes-Benz Sprinter ถูกออกแบบพัฒนาให้มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว คล่องแคล่ว เป็นรถตู้ที่ให้ความสะดวกสบายเฉกเช่นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล OM 642 CDI แบบวี 6 สูบ 24 วาล์ว เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2,987 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 140 กิโลวัตต์ (190 แรงม้า) ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 9.7 – 10.1 กม. / ลิตร ผ่านมาตรฐานการควบคุมมลพิษ ของสหภาพยุโรป Euro 5 ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC) ซึ่งให้การปรับเปลี่ยนเกียร์ทุกครั้งเป็นไปอย่างแม่นยำและนุ่มนวล นอกจากนี้ Mercedes-Benz Sprinter มาพร้อมกับเทคโนโลยี ระบบความปลอดภัย เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยควบคุม การทรงตัวเมื่อถูกแรงลมปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Highbeam Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดบอด (Blind Spot Assist) ระบบช่วยเตือนให้รถขับอยู่ในเลน (Lane Keeping Assist) นอกจากนั้นยังมีโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Adaptive ESP® (Electronic Stability Program) ใหม่ เวอร์ชั่น 9i ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกในสถานการณ์ฉุกเฉิน Brake Disc Wipe ซึ่งช่วยขจัดความชื้นและคราบน้ำที่เกาะบนจานเบรก และ Electronic Brake Prefill ซึ่งช่วยควบคุมการทำงานของผ้าเบรกซึ่งระบบทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ และโดยสาร
สำหรับรูปลักษณ์ภายในและภายนอก ได้รับการออกแบบให้มีความหลากหลายของดีไซน์และ มีรูปลักษณ์ให้เลือกตามความต้องการ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในหลากหลายภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านโลจิสติกส์ เพื่อรองรับกับการบรรทุกสินค้าจำนวนมาก ด้วยการออกแบบพื้นที่ภายในตัวรถให้สูงโปร่งและกว้างขวาง ธุรกิจโทรคมนาคม ในการทำเป็นรถถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม หรือรถถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงนอกสถานที่ รถขนส่งอาหาร รถบ้านเคลื่อนที่ หรือรถพยาบาล ในส่วนห้องผู้ขับขี่และห้องโดยสารด้านหลังยังสามารถติดตั้ง ผนังกั้นเป็นอุปกรณ์เลือก เพื่อแยกฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน ให้ความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
ด้วยแนวคิดซึ่งคำนึงถึงการใช้งานของ Mercedes-Benz Sprinter การออกแบบตั้งแต่ ฝากระโปรงห้องเครื่องถูกออกแบบใหม่ให้ดูสูงขึ้น กันชนด้านหน้าถูกออกแบบให้ดูปราดเปรียว คล่องแคล่ว สอดรับกับกระจังหน้า ไฟหน้าโดดเด่นแบบ daytime สามารถส่องสว่างในเวลากลางวัน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทัศนวิสัยในการขับขี่ ส่วนไฟท้ายดีไซน์ใหม่ให้ดูสะดุดตายิ่งขึ้น ส่วนภายในได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารโดยออกแบบและผลิตขึ้นตามหลักสรีรศาสตร์โดยเบาะนั่งของผู้ขับขี่และผู้โดยสารถูกกำหนด ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อรองรับกับการเคลื่อนไหวในทุกอิริยาบถ สำหรับอุปกรณ์และสวิตช์ควบคุมการทำงานต่างๆ ถูกจัดวางให้สะดวกต่อการใช้งานพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวย ความสะดวกอย่างพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นในการควบคุมหรือเลือกใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย พร้อมทั้งเครื่องเล่นวิทยุ-ซีดี MB Audio 10 ซึ่งรองรับการใช้งานกับ Bluetooth อีกทั้งประตูเลื่อนเปิด-ปิดทางด้านซ้ายด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบเซ็นเซอร์ บันไดติดตั้งตรงประตู เพื่อความสะดวกในการขึ้นลงซึ่งสามารถเลื่อนเข้าออกด้วยระบบไฟฟ้า
มร.เกรเว่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ในปัจจุบัน นอกจากคุณภาพในเรื่องความทนทานแข็งแกร่งสำหรับทุกสภาวะการขับขี่ การประหยัดเชื้อเพลิง และการพัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนต่างๆ ที่ล้ำสมัย เพื่อสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการในหลากหลายธุรกิจ ระบบความปลอดภัยที่เพียบพร้อม ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อรถเพื่อการพาณิชย์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่นำเอาระบบ ความปลอดภัยต่างๆ ที่ใช้ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล นำมาใช้กับรถเพื่อการพาณิชย์ และเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าในยนตรกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เรายังได้สร้างความประทับใจและความมั่นใจให้กับลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจ และกลุ่มลูกค้า ส่วนบุคคลเป็นอย่างดี ทางบริษัทฯ เล็งเห็นว่าตลาดรถเพื่อการพาณิชย์สามารถเติบโตต่อได้ อย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบความปลอดภัยและคุณภาพระดับมาตรฐานยุโรป ผ่านการรับประกันสำหรับรถ Mercedes-Benz Sprinter เป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร พร้อมสิทธิพิเศษ Star Assist โปรแกรมพิเศษที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และการรับประกันปีแรก แบบไม่จำกัดระยะทาง และการรับประกันเพิ่มเติมในปีที่สอง อีกสูงสุดถึง 800,000 กิโลเมตร สำหรับแชสซีรถโดยสาร OC500RF1836 อีกด้วย”