กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--IR network
"ไตรสรณ์ วรญาณโกศล" มั่นใจปีนี้ SPVI กวาดรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท หลังช็อปใหม่ mobi เริ่มทำรายได้ช่วงท้ายปี เดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มในปีนี้อีก 3 สาขา ส่วนปีหน้าเพิ่มเป็น 10 สาขา ปลื้มช่วยลดต้นทุนค่าเช่าพื้นที่และเพิ่มยอดขาย ส่วนงบไตรมาส 3/2557 ทำกำไร 2.38 ล้านบาท ชะลอตัวหลังผู้บริโภครอซื้อ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่เปิดตัวในไตรมาส 4/2557
นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอส พี วี ไอ (SPVI) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะดีขึ้น และคาดว่ายอดขายในปีนี้จะทะลุ 2,000 ล้านบาท แม้ภาพรวมในครึ่งปีแรกยอดขายจะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอยลดลง เนื่องจากปัญหาความไม่แน่นอนของการเมือง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ยอดขายเริ่มเติบโตขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ หลังจากสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย อีกทั้งในช่วงครึ่งปีหลัง Apple มีสินค้าใหม่ทยอยออกสู่ตลาด เช่น iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จึงสามารถกระตุ้นยอดขายได้อย่างดี และยังมีการเปิดตัวและเริ่มจำหน่าย iPad Air2 และ iPad Mini3 ในวันที่ 7 พฤศจิกายน เป็นวันแรกที่สาขา และในงาน Commart ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นอกจากนี้ การที่บริษัทได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย iOS Devices (iPhone iPad และ iPod และสินค้าอุปกรณ์เสริมอื่นๆ) ภายใต้ชื่อร้าน mobi by spvi โดยได้เปิดให้บริการไปแล้ว 3 สาขา เมื่อตั้งแต่ต้นเดือน ตุลาคม 2557 ที่ซีคอนสแควร์ เดอะมอลล์บางกะปิ และเดอะมอลล์รามคำแหง และภายในเดือน ธันวาคมนี้จะเปิดอีก 1 สาขา ที่ จ.หนองคาย ส่วนปี 2558 จะเปิดอีก 6 สาขา กระจายไปตามแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ รวมทั้งสิ้นจะมี 10 สาขาภายในปี 2558
“บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากการเปิดสาขา mobi ในปีนี้ ทำให้จะมาชดเชยยอดขายครึ่งปีแรกที่ไม่หวือหวามาก ซึ่งการเปิดช็อป mobi สามารถช่วยให้ลดต้นทุนกับบริษัทได้ เพราะใช้พื้นที่เพียง 20 ตารางเมตร และอยู่ในทำเลบริเวณที่มีลูกค้าเดินผ่านจำนวนมาก และมองเห็นได้ง่าย ซึ่งช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าได้มาก และล่าสุดบริษัทยังได้ยกเลิกสัญญาการเปิดช่องทางขายผ่าน บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ก็จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการบริหารสาขาเหล่านั้นลงได้” นายไตรสรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานช่วง ไตรมาส 3/2557 ของบริษัทมีรายได้ 366.58 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 450.47 ล้านบาท หรือลดลง 18.62% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.38 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.42 ล้านบาท หรือลดลง 46.10% เป็นผลมาจากประชาชนยังคงมีความระมัดระวังการจับจ่าย อีกทั้งผู้บริโภคส่วนใหญ่ชะลอการซื้อสินค้าใหม่เนื่องจากข่าวที่ Apple มีกำหนดเปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus รวมถึงiPad Air2 และ iPad Mini3 ในไตรมาสสุดท้ายของปี