กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--APPR Media
- เดลล์คือผู้ให้บริการโซลูชันสตอเรจอันดับ 1 ในครึ่งปีแรกของปี 2557
- เดลล์รักษาสถานภาพผู้นำที่มีส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ x86 ทั่วโลกเป็นอันดับ 2
- เดลล์ ซอฟต์แวร์ มีการเติบโตของรายได้เป็นตัวเลขสองหลักเทียบกับปีที่ผ่านมา
- เดลล์มียอดการส่งพีซี เติบโตเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบปีต่อปี
- เดลล์ได้รับการจัดอันดับโดยการ์ทเนอร์ให้เป็นผู้ให้บริการด้านไอทีสำหรับเฮล์ธแคร์อันดับ 1 ของโลก
- เดลล์มีการเติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลกสูงขึ้นทุกปี
ในฐานะบริษัทเอกชน เดลล์ได้เร่งการลงทุนทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงช่องทางจำหน่าย สร้างยอดขายและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อมอบนวัตกรรมและการเติบโตสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรม ด้วยความสามารถในการดำเนินตามกลยุทธ์ระยะยาวที่มุ่งเน้นไปที่ลูกค้า 100 เปอร์เซ็นต์ เดลล์ยืนหยัดอย่างสง่างามในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันผสานรวมที่ครบวงจรซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสุดสำหรับลูกค้า
“วันนี้ เดลล์คือบริษัทที่นำเสนอระบบไอทีแบบผสานรวม (Integrated IT Company) ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก กลยุทธ์ของเราสะท้อนถึงสิ่งที่ลูกค้าทั่วโลกมองหานั่นคือผู้ให้บริการโซลูชันแบบครบวงจรที่ยั่งยืน และเชื่อถือได้เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งด้านธุรกิจ และไอที” ไมเคิล เดลล์ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอุปกรณ์เชื่อมต่อปลายทาง (เอ็นด์พ้อยต์) ไปจนถึงดาต้า เซ็นเตอร์ กระทั่งระบบคลาวด์ ทั้งลูกค้าและคู่ค้าต่างมองเห็นคุณค่าในการทำงานร่วมกับเดลล์ ทั้งในแง่ของความเชื่อมั่น ความสะดวก สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้”
เดลล์แซงหน้าคู่แข่งด้วยการเติบโตของโซลูชันครบวงจร
- จากข้อมูลของไอดีซี (อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรม เดลล์คือซัพพลายเออร์ด้านสตอเรจ อันดับ 1 ในครึ่งปีแรกของปี 2557 โดยอิงจากจำนวนเทอราไบท์ทั้งหมดที่จำหน่ายทั้งในส่วนของสตอเรจเพื่อการใช้งานทั้งภายในและภายนอก (Internal และ External Storage)
- จากข้อมูลของไอดีซี เดลล์ยังคงครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 2 ของโลกด้านส่วนแบ่งทางการตลาด ผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ x86 และยังสามารถรักษาสถานภาพผู้นำอันดับ 1 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากไอดีซียังระบุว่า สำหรับไตรมาสที่สอง เดลล์เป็นผู้จำหน่ายหลักเพียงรายเดียวที่มีการเติบโต ทั้งในส่วนของแร็ค เซิร์ฟเวอร์ และเบลด เซิร์ฟเวอร์เพิ่มขึ้นปีต่อปี
- เดลล์ ซอฟต์แวร์ มีการเติบโตของรายได้ถึงสองหลัก เนื่องจากบริษัทได้ขยายธุรกิจซอฟต์แวร์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดแข็งในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย การจัดการข้อมูล รวมถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูล และระบบผสานการทำงานของแอพพลิเคชันระดับเอนเตอร์ไพรซ์ โดยนับตั้งแต่มีการเสริมสายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์เข้าในโปรแกรมเดลล์ พาร์ทเนอร์ ไดเร็ค (Dell PartnerDirect program) ในปีที่ผ่านมา ก็ทำให้รายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับช่องทางจำหน่ายของเดลล์ ซอฟต์แวร์ เติบโตเป็นสองหลักเช่นกัน
- จากข้อมูลเบื้องต้นของไอดีซี เดลล์ยังคงรักษาเสถียรภาพในธุรกิจโซลูชันไคลเอนท์ (พีซี) เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 3 ตามปีปฎิทิน 2557 จากการที่บริษัทมีการเติบโตของส่วนแบ่งในตลาดโลก 7 ไตรมาสติดต่อกันปีต่อปี ซึ่งเติบโตมากกว่าคู่แข่งหลักทั้งสองรายในสหรัฐอเมริการวมกัน โดยอิงจากข้อมูลไอดีซีเมื่อเร็วๆ นี้ และจากข้อมูลดังกล่าว ส่วนแบ่งของเดลล์ในตลาดพีซีสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 24 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้น 3.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี และมียอดการส่งพีซีทั่วโลกระหว่างไตรมาสที่เติบโตเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี
- เดลล์ได้รับการจัดอันดับจากการ์ทเนอร์ให้เป็นผู้ให้บริการด้านไอทีสำหรับเฮล์ธแคร์4 อันดับ 1 ของโลกในด้านไอที โดยอ้างอิงจากตัวเลขรายได้ในปี 2556
- ด้วยอัตราการขยายตัวอย่างมากในแง่ของส่วนแบ่งทางการตลาด เดลล์ เซอร์วิสได้รับการยอมรับในฐานะของผู้ท้าชิงรายหลักในรายงานซึ่งเป็นตารางการเปรียบเทียบผู้ให้บริการเอาท์ซอร์สด้านไอทีสำหรับการธนาคารในกลุ่มของ Everest (Everest Group Banking IT Outsourcing PEAK MatrixTM) ที่ยังคงมีความสามารถเหนือชั้นในเรื่องการบริการทางการเงิน โดยมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม รวมถึงการสร้างพันธมิตร และมีการวางเป้าหมายเชิงกลยุทธ์อยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เติบโตในเรื่องของเทคโนโลยีที่ซับซ้อน จากทั้งสถาบันการเงินและการธนาคาร
เดลล์ขยายฐานโซลูชันเซ็นเตอร์รับลูกค้าองค์กรใหญ่ทั่วโลก
- เดลล์ประกาศแผนในการขยายศูนย์กลางโซลูชัน หรือโซลูชันเซ็นเตอร์ โดยจะเปิดตัวศูนย์กลางแห่งใหม่ในย่านดาวน์ทาวน์ของ ชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ในช่วงต้นปี 2558 ทั้งนี้ เดลล์ได้มีการเปิดโซลูชันเซ็นเตอร์แห่งใหม่ไปเมื่อต้นปีทั้งในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเซา เปาโล ประเทศบราซิล ซึ่งการลงทุนครั้งใหม่ในชิคาโก้ จะทำให้บริษัทมีโซลูชันเซ็นเตอร์ทั้งสิ้น 15 แห่งทั่วโลกเพื่อช่วยให้ลูกค้าองค์กร และพันธมิตรสามารถทดสอบ และประเมินโซลูชัน และบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น
- ตั้งแต่เปิดเดลล์ เซ็นเตอร์แห่งแรกในไลเมอริค ประเทศไอร์แลนด์ในปี 2554 ทำให้เดลล์ได้มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดกับองค์กรและพันธมิตรทั้งหมดเกือบ 20,000 ราย ส่งผลให้เกิดการสร้างยอดการขายมากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ และเซ็นเตอร์แต่ละแห่งยังช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจ โดยชั่วระยะเวลาเพียงแค่ 18 เดือนที่ผ่านมา โซลูชันเซ็นเตอร์ทั้งหมดของเดลล์ก็รองรับการทำงานร่วมกันระหว่างเดลล์กับลูกค้าและคู่ค้าถึงกว่า 11,000 รายด้วยกัน
- ลูกค้าองค์กรที่เข้ามาใช้โซลูชัน เซ็นเตอร์ของเดลล์มีตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ องค์กรภาครัฐ ไปจนถึงบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวมถึงพันธมิตรช่องทางจำหน่ายของเดลล์ด้วยเช่นกัน
- เดลล์ เซ็นเตอร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ลูกค้า และคู่ค้าเปิดสู่โอกาสใหม่ รวมถึงพัฒนา และทดสอบโซลูชัน และเทคโนโลยีที่ตรงตามความต้องการด้านไอทีเฉพาะได้ดีที่สุด ช่วยกลุ่มคนเหล่านี้สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ดีขึ้น มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น
- ความสามารถหลักที่ทำให้เดลล์แตกต่างจากบริษัทอื่นคือระบบเครือข่ายที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งทำให้เซ็นเตอร์ทุกแห่งในโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้ โดยให้ศักยภาพระบบเครือข่ายทั่วโลกได้อย่างแท้จริง สำหรับทั้งลูกค้าและคู่ค้าในการทดสอบแอพพลิเคชันต่างๆ ทั่วโลกบนโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายของเดลล์
เดลล์ผลักดันนวัตกรรมล้ำหน้า เดลล์ รีเสิร์ช ทำลายสถิติเรื่องประสิทธิภาพเหนือชั้น
- เดลล์ รีเสิร์ช หรือฝ่ายวิจัยของเดลล์ ได้พัฒนาโซลูชันซึ่งผ่านการพิสูจน์เรื่องแนวคิดที่ทำได้จริง (proof-of-concept) เรียกว่า ไฮ เวโลซิตี้ คลาวด์ (High Velocity Cloud) หรือคลาวด์ที่ให้ความเร็วสูง สามารถรองรับทราฟฟิกของอุปกรณ์โมบายทั้งหมดที่ใช้อยู่ในเมืองขนาดกลาง เช่น ออสติน โดยใช้แค่อุปกรณ์เครือข่ายและแร็คเซิร์ฟเวอร์ของเดลล์ เพียงแค่หนึ่งในสี่เท่านั้น
- ไฮ เวโลซิตี้ คลาวด์ ทำให้เซิร์ฟเวอร์มาตรฐานสามารถประมวลผลแพ็คเก็ตสมรรถนะสูงได้อย่างเหมาะสม และช่วยปรับปรุงความสามารถของเซิร์ฟเวอร์เสมือนแบบมาตรฐานได้สูงถึง 20 เท่าเพื่อรองรับฟังก์ชันการทำงานบนเครือข่ายได้อย่างเต็มที่
- เมื่อเร็วๆ นี้ เดลล์ รีเสิร์ชพร้อมด้วยพันธมิตรได้สร้างสถิติด้านสมรรถนะการทำงาน พร้อมการสาธิตการใช้ไฮ เวโลซิตี้ คลาวด์ โดยใช้ Dell R920 เวอร์ชวลไลซ์ แสตนดาร์ด เซิร์ฟเวอร์ พร้อมเน็ตเวิร์ค อแดปเตอร์มาตรฐาน โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ชนิดพิเศษแต่อย่างใด โดยสามารถใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานให้กับระบบที่ให้ความสามารถรองรับแบนด์วิธที่ความเร็ว 214 กิกะบิตต่อวินาที ในขณะที่ยังเหลือซีพียูมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ไว้สำหรับทำงานเวิร์กโหลดหนักๆ บนเครือข่ายได้
- ไฮ เวโลซิตี้ คลาวด์ นำมาซึ่งนวัตกรรมและความล้ำหน้าอย่างมากมายมหาศาล อาทิ การให้บริการคลาวด์ที่ปกติอาจใช้เวลาหลายเดือน แต่ปัจจุบันสามารถทำได้รวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที สิ่งนี้นับเป็นการสร้างโอกาสอย่างมหาศาล ทั้งยังช่วยผลักดันให้องค์กรหันมาทบทวนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ การจัดสรรทรัพยากร และสายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เดลล์ทำให้อนาคตของไอทีเป็นรูปร่างขึ้นได้ด้วยเดลล์ เวนเจอร์
- การลงทุนของเดลล์ เวนเจอร์จะช่วยให้เดลล์สามารถยืนหยัดอยู่แถวหน้าในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับลูกค้า พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ ที่จะเป็นคนช่วยทำให้อนาคตของไอทีเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
- เดลล์ประกาศการลงทุนในอินวินเซีย (Invincea) ลาสต์ไลน์ (Lastline) ฟอร์เมชัน ดาต้า ซิสเต็มส์ (Formation Data Systems) และ and นีเซนต้า (Nexenta) ตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวกองทุนเพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Strategic Innovation Venture Fund) มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่การลงทุนในบริษัทเริ่มโตในกลุ่มเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งรวมถึงสตอเรจ คลาวด์ คอมพิวติ้ง บิ๊ก ดาต้า เน็กซ์-เจนเนอเรชัน ดาต้า เซ็นเตอร์ การรักษาความปลอดภัย และโมบิลิตี้
- เดลล์ นำมูลค่ามาสู่บริษัทที่เกิดขึ้นใหม่ (startups) ในแง่ของการให้คำปรึกษาทั้งด้านเทคนิค และด้านธุรกิจ ตลอดจนการเข้าถึงแบรนด์ เรื่องของลูกค้า ช่องทางจำหน่าย พันธมิตรที่ทำตลาดร่วมกัน รวมถึงโซลูชันแบบโออีเอ็ม