ดันน์ฮัมบี้เผยความสะดวกเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภคชาวไทย

ข่าวทั่วไป Monday November 10, 2014 09:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ - การขยายตัวของร้านสะดวกซื้อส่งผลให้เกิดการซื้อสินค้าในแต่ละครั้งจะซื้อสินค้าจำนวนไม่มาก แต่บ่อยขึ้น (ตะกร้าขนาดเล็ก) - มากกว่าหนึ่งในสามของการจับจ่ายแต่ละครั้ง พบว่ามีสินค้าจำนวนน้อยกว่า 3 รายการที่แตกต่างกัน - หนึ่งในสี่ของการจับจ่ายมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหลังการเลิกงาน - พฤติกรรมการซื้อในรูปแบบตะกร้าขนาดเล็กเกิดขึ้นทั้งใน ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าสะดวกซื้อ ผลการวิจัยล่าสุดจากบริษัทดันน์ฮัมบี้ บริษัทชั้นนำที่ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เผยถึงผู้บริโภคชาวไทยหันมาซื้อสินค้าโดยใช้ปัจจัยด้านความสะดวกซื้อและมีพฤติกรรมการซื้อในแต่ละครั้งจะซื้อสินค้าจำนวนไม่มาก แสดงให้เห็นว่าร้านค้าควรจะมีการปรับหรือเปลี่ยนแปลง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ จากงานวิจัย Global Trends ที่เกี่ยวกับแนวโน้มพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคชาวไทยโดย ดันน์ฮัมบี้ พบว่าร้านสะดวกซื้อมีความสำคัญอย่างมากในประเทศไทย โดยมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายมาจากร้านสะดวกซื้อ และเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งหมดมาจากการซื้อสินค้าจำนวนไม่เกินสามชิ้น นอกจากนี้แนวโน้มของร้านสะดวกซื้อแล้ว ยังได้ขยายตัวไปยังร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ (Hypermarket) ในขณะที่มากกว่าหนึ่งในสี่ของการซื้อสินค้าจะน้อยกว่าสามชิ้นด้วยกัน ความสะดวกสบายเป็นส่วนหนึ่งของความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับให้เหมาะสมกับความต้องการสำหรับการซื้อสินค้าและการดำรงชีวิต หนึ่งในสี่ของผู้บริโภคที่ทำแบบสอบถามมักจะซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงเวลา 17.00 – 20.00 น. และราคาถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเลือกซื้อสินค้าในบรรดาสินค้าประเภทเดียวกัน เช่น ผลไม้ โยเกิร์ต ผัก นม และเครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกอฮอล์ เน้นความต้องการสำหรับผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ ซึ่งชี้ให้เห็นการเพิ่มขึ้นของการเตรียมอาหารสดใหม่เพื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้าน จากผลการวิจัยในประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงผลโดยรวมในระดับสากล ด้วยจำนวนมากถึงร้อยละ 50 ของผู้บริโภคทั่วโลกซื้อสินค้าจำนวนน้อยกว่าเจ็ดชิ้นต่อหนึ่งครั้ง และสิ่งนี้สามารถทำนายได้ว่ายอดขายจากร้านสะดวกซื้อจะมีมากกว่าร้านค้าในรูปแบบอื่นรวมกันภายในปี พ.ศ. 2559 นายธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรม บริษัท ดันน์ฮัมบี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นักช้อปมักจะมองหาความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันและสิ่งเหล่านี้ยังรวมไปถึงประสบการณ์ของการจับจ่ายด้วยเช่นกัน ในการที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นร้านค้าปลีกทั้งขนาดใหญ่และร้านสะดวกซื้อควรมีการปรับตัวเพื่อรองรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าจำนวนไม่มากในแต่ละครั้งของนักช้อป “การเริ่มต้นง่ายๆ เช่น วางสินค้าที่เป็นที่นิยมตรงจุดชำระเงินหรือจัดเรียงสินค้าให้เพียงพอสำหรับการเลือกซื้อสินค้าเพื่อให้การช้อปปิ้งรวดเร็วยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนอย่างชัดเจนแล้วว่าร้านค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค (Customer Packaged Goods - CPG) ต้องติดตามแนวโน้มการขยายตัวของตลาดในระยะยาวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที” งานวิจัย Global Trend Unit ได้ศึกษาเกี่ยวกับแนวโน้มพฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้บริโภคชาวไทยที่จัดทำขึ้นโดยดันน์ฮัมบี้ ชี้ให้เห็นถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมค้าปลีกในอนาคต การวิจัยครั้งนี้ประกอบไปด้วยข้อมูลเชิงลึกจากผู้บริโภค 400 ล้านคนทั่วโลกเพื่อทำการวิเคราะห์แนวโน้มและช่วยให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจของทั้งผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและร้านค้าปลีกสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นและมีการวางกลยุทธ์ที่เหนือกว่าคู่แข่งในอนาคต สำหรับการวิจัยชิ้นนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เข้าใจถึงแรงจูงใจและแรงขับเคลื่อนของความสะดวกสบายในการซื้อสินค้านั้น ดันน์ฮัมบี้ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคและการซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อจากทั้งหมด 18 ประเทศ และทำการวิเคราะห์พฤติกรรมของร้านค้ามากกว่า 7 ล้านแห่งในทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป และเอเชียโดยรวบรวมข้อมูลจากพันธมิตรของดันน์ฮัมบี้ทั่วโลก สำหรับผลการวิจัยเกี่ยวกับ Convenience Experience สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://www.dunnhumby.com/understanding-convenience-experience

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ