กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
ลีสซิ่งกสิกรไทย ผนึก ตงฟง มอเตอร์ส ผู้นำรถบรรทุกเล็กจากแดนมังกร เปิดตัวโครงการ “ตงฟง เยส!” (DFSK Yes!) บริการรับเทิร์นและจำหน่ายรถตงฟงมือสอง ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อผ่านโครงการได้ 300 คัน ภายใน 1 ปี มั่นใจตลาดรถบรรทุกขนาดเล็กยังไปได้สวย
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ของไทยในปีนี้จะชะลอตัวลง แต่ตลาดรถบรรทุกขนาดเล็ก (Mini Truck) ยังมีแนวโน้มที่ดี ตามการขยายตัวของธุรกิจเอสเอ็มอี เนื่องจากเป็นรถราคาประหยัด มีขนาดเล็ก ต้นทุนการใช้งานที่ต่ำ มีความคล่องตัวเหมาะกับการใช้งานของเอสเอ็มอี
ดังนั้นบริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด และบริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกขนาดเล็ก จึงร่วมกันเปิดโครงการ “ตงฟง เยส!” (DFSK Yes!) เพื่อช่วยลูกค้าที่ต้องการขายรถยนต์ตงฟงเก่าและแลกซื้อรถยนต์ตงฟงใหม่ หรือลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์มือสองที่มีการรับประกันคุณภาพโดย ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้รับซื้อรถเก่าโดยตรง จึงสามารถกำหนดราคารับซื้อรถเก่าด้วยราคาที่ยุติธรรม เหมาะสมตามสภาพรถ รวมทั้งการจำหน่ายรถยนต์ ตงฟงมือสองที่ผ่านมาตรฐานตงฟงแล้วด้วย โดยลีสซิ่งกสิกรไทยจะสนับสนุนสินเชื่อเช่าซื้อแก่ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ตงฟง เยส!” ที่ต้องการซื้อรถยนต์ตงฟงทั้งมือหนึ่งและมือสองในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
ลูกค้าที่สนใจร่วมโครงการ “ตงฟง เยส!” และสนใจใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อจากลีสซิ่งกสิกรไทย สามารถติดต่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ตงฟง 50 สาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อผ่านโครงการนี้ได้ 300 คัน หรือวงเงินสินเชื่อประมาณกว่า 40 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2558
นายสุรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2557 บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับรถใหม่ของตงฟง จำนวนรวม 1,300 คัน วงเงินรวม 360 ล้านบาท และมีสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ (Floor plan) สำหรับดีลเลอร์ของตงฟง วงเงินรวม 150 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2558 จะมียอดสินเชื่อกับตงฟงในปริมาณใกล้เคียงกัน
สำหรับปี 2558 คาดว่าทิศทางความต้องการตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์จะปรับตัวดีขึ้น จากปัจจัยบวก โดยเฉพาะ เรื่องการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชนที่จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นชัดเจนกว่าปีนี้ โดยการเปิดเสรีทางการค้าภายใต้กรอบ AEC จะเป็นอีกแรงหนุนหนึ่งที่สำคัญทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการขนส่งมีการขยับขยายเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ประกอบกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังสะสมอยู่ จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดรถยนต์รวมทั้งปี 2558 ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ปี 2558 มีโอกาสขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5%
ทั้งนี้ ตลาดรถบรรทุกขนาดเล็ก นับเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง แต่มีบริษัทรถยนต์ที่ทำการตลาดอย่างจริงจังเพียงไม่กี่ยี่ห้อ รวมทั้งล่าสุดการที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีด้านเศรษฐกิจที่สำคัญเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนตั้งโรงงานและขยายการลงทุนในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ก็เพิ่มจากปีที่แล้ว 10% และ 6% ตามลำดับ จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจไทย เชื่อว่าเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ตลาดรถบรรทุกขนาดเล็กจะเป็นตลาดรถยนต์กลุ่มแรก ๆ ที่ฟื้นตัว และการที่ตงฟงลงมาทำการตลาดรถยนต์มือสองจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะรายเล็ก ๆ หรือที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่ที่มีเงินทุนจำกัด สามารถมีรถบรรทุกที่เหมาะไว้ใช้งานในธุรกิจได้มากขึ้น
นายพิทยา ธนาดํารงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรทุกขนาดเล็กภายใต้แบรนด์ตงฟง ได้เปิดเผยถึงการเปิดตลาดรถมือสอง ว่า ตงฟง มอเตอร์ส ได้จับมือกับลีสซิ่งกสิกรไทยเดินหน้าเปิดโครงการรถมือสอง “ตงฟง เยส!” (DFSK Yes!) โดยรับเทิร์นและจำหน่ายรถตงฟงมือสองผ่านทางเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายรถตงฟง 50 สาขาทั่วประเทศ ภายใต้โครงการนี้ ลูกค้าสามารถขายรถยนต์ตงฟงเก่าและแลกซื้อรถยนต์ตงฟงใหม่ หรือซื้อรถมือสองได้ที่ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ตงฟงทั่วประเทศ โดยมีลีสซิ่งกสิกรไทย เป็นผู้สนับสนุนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ตงฟงทั้งรถมือหนึ่ง และมือสองด้วยเงื่อนไขที่พิเศษ โดยมีเป้าหมายในปี 2558 ที่ 300 คัน
ทั้งนี้รถยนต์ตงฟงมือสองที่จะจำหน่ายเข้าสู่ตลาดทุกคันจะถูกส่งกลับไปปรับสภาพ และตรวจสอบคุณภาพใหม่หมดทุกคันที่โรงงานประกอบรถยนต์ของตงฟง เพื่อควบคุมมาตรฐานด้านคุณภาพให้ผู้บริโภคอุ่นใจ และมั่นใจกับรถยนต์ตงฟงได้ทั้งรถมือหนึ่ง และมือสอง และสำหรับรถยนต์ตงฟงมือสองทุกรุ่นจะมีการรับประกันคุณภาพ 1 ปีหรือ 20,000 กิโลเมตร ทางบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะทำให้ราคาขายรถมือสองของตงฟงมีความเหมาะสม สร้างความมั่นใจแก่ลูกค้ามากขึ้น และจะช่วยผลักดันทั้งยอดขายรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสองควบคู่กัน
ในส่วนภาพรวมการจำหน่ายรถบรรทุกขนาดเล็กของตงฟงในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีอัตราเติบโตคงที่จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าเป็นเซ็กเมนต์รถยนต์ที่ได้รับผลกระทบน้อยมากจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจของประเทศ ตลาดรถบรรทุกขนาดเล็กนั้นมีเอกลักษณ์ในแง่ที่มีผู้จำหน่ายอยู่เพียงไม่กี่ราย แต่มีฐานลูกค้าที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นการดูแลลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ทางบริษัทฯ จึงมีการจัดตั้งโครงการสนับสนุนตลาดรถมือสองดังกล่าวขึ้น เพื่อดูแลลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ของรถยนต์ตงฟง
โครงการ ตงฟง เยส! ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะยกระดับภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในยี่ห้อรถยนต์ตงฟง ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับแบรนด์รถยนต์จากจีนในตลาดประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญที่จะพัฒนาแบรนด์รถยนต์จีนให้เท่าเทียมกับแบรนด์อื่นในตลาดทั่วไป
สำหรับยอดขายของรถยนต์ตงฟงในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ มีจำนวน 1,814 คัน และภายในสิ้นปีนี้คาดว่าสามารถทำยอดขายได้ถึง 2,300 คัน ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และมีกลุ่มลูกค้าที่เริ่มสนใจเป็นเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ ต้องการรถบรรทุกขนาดเล็กดัดแปลงเพื่อค้าขายสินค้าหรือรถอาชีพจำนวนมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ก็ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ตงฟงได้ง่ายขึ้น ด้วยแคมเปญดาวน์น้อย ผ่อนนาน และมีส่วนลดและของแถมถึง 45,000 บาท
ล่าสุดได้ออกแคมเปญ “ตงฟง...คุ้มโดนใจ” จัดหนัก จัดเต็ม ให้ลูกค้าที่จองและรับรถ ตงฟง มอเตอร์ส ทุกรุ่น ภายใน 30 พฤศจิกายน 2557 รับความคุ้มโดนใจ ถึง 3 คุ้ม คุ้มที่หนึ่ง ด้วยฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี คุ้มที่สอง สำหรับลูกค้าที่ซื้อรุ่น “ตงฟง V21 แชมเปี้ยน” รับของแถมมูลค่าสูงสุดถึง 45,000 บาท และคุ้มที่สาม กับสิทธิ์ลุ้นชิงไอโฟน 6 ทุกเดือน เดือนละ 5 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 10 เครื่อง
สำหรับผู้บริโภคคนไทย ในตลาดรถพาณิชย์ ราคารถมือสองเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคคำนึงและไตร่ตรองก่อนซื้อรถใหม่เสมอ ดังนั้นบริษัทฯเชื่อว่าโครงการ "ตงฟง เยส!" จะช่วยให้ลูกค้าเชื่อมั่นในแบรนด์ตงฟง ว่าจะสามารถขายต่อรถยนต์คันเก่าได้ในราคาที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันก็จะสามารถผลักดันยอดขายรถยนต์ของบริษัทตงฟงทั้งรุ่นเดิมและรุ่นใหม่ที่เพิ่งออกขายล่าสุด 3 รุ่นในปีนี้ เพิ่มจำนวนมากขึ้น
ปัจจุบันรถยนต์ญี่ปุ่นมีอัตราเสื่อมในปีแรกโดยเฉลี่ยประมาณ 30% และ 40% ในปีที่สอง สำหรับรถยนต์ตงฟง คาดว่าจะมีค่าเสื่อมในปีแรกอยู่ที่ไม่เกิน 40% และในปีที่ 2 ไม่เกิน 50% ซึ่งเปรียบเทียบกับราคารถที่ห่างกว่ารถตลาดถึงสองเท่า ทางบริษัทฯเชื่อว่าอัตราค่าเสื่อมของรถยนต์ตงฟงน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้บริโภครับได้อย่างแน่นอน หน้าที่ 2/2