ปภ.รายงาน 2 จังหวัดภาคใต้ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก พร้อมจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ภัยใกล้ชิด ต่อเนื่อง

ข่าวทั่วไป Monday November 10, 2014 11:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--ปภ. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักเนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง 2 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช ปัตตานี ทำให้เกิดน้ำท่วมขังจากการระบายน้ำไม่ทัน ปัจจุบันกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ ปภ. ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและติดตามสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งจะติดตามและรายงานสถานการณ์ภัยเป็นระยะอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมทะเลจีนใต้ และเคลื่อนตัวผ่านภาคใต้ตอนล่างในวันนี้ (8 พ.ย. 57) ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น ฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง 2 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช และปัตตานี โดยนครศรีธรรมราช พื้นที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราชเกิดน้ำท่วมขัง เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะ ปกติแล้ว ปัตตานี มีฝนตกหนักเป็นช่วงๆ วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ที่อำเภอเมืองปัตตานี 214.9 มม. ทำให้ หลายพื้นที่ในอำเภอเมืองปัตตานีเกิดน้ำท่วมขังจากการระบายน้ำไม่ทัน โดยเฉพาะบริเวณมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี บ้านพักอาจารย์วิทยาลัยอาชีวศึกษาปัตตานี กองร้อย อส.จ.ปัตตานี ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานีได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโดยด่วนแล้ว สถานการณ์ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว ขณะที่อีก 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง พัทลุง ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สงขลา สตูล และพัทลุง มีฝนตกเล็กน้อย ท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่มีสถานการณ์อุทกภัยแต่อย่างใด ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและติดตามสถานการณ์อุทกภัย ณ ศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ แจ้งเตือน รายงานสถานการณ์ภัย ประสานการปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยกับจังหวัดอย่างใกล้ชิด ซึ่ง ปภ.จะติดตามและรายงานสถานการณ์ภัยเป็นระยะ อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ ปภ. ยังได้ประสานให้ 16 จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในระยะนี้ จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง และจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย รวมถึงดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักสามารถแจ้งเหตุและติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ