กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
ผู้สร้าง Oracle Database enterprise SAN environments เผยว่า Oracle FS1 ถือเป็นซีรีย์นวัตกรรมใหม่จาก คิวโอเอส พลัส ซอฟต์แวร์ (QoS Plus software) และ วัน คลิ๊ก แอพพลิเคชั่น สตอเร็จ โพซิชั่นนิ่ง(one-click application storage provisioning)
สำหรับการก้าวข้ามข้อจำกัดของระบบจัดเก็บข้อมูลแฟลชแบบเดิม ออราเคิลได้เปิดตัว Oracle FS1 Series ในระบบ Flash Storage สำหรับเพิ่มระดับความสามารถในการเก็บข้อมูลได้ถึงระดับเพตะไบต์ และยังให้นวัตกรรมเหมือระดับดีไซน์ใหม่โดยเทคโนโลยีแฟลช ผู้ใช้ที่ใช้แอบพลิเคชั่นต่าง ๆ ของออราเคิล อาทิ Oracle E-Business Suite Oracle's PeopleSoft JD Edwards EnterpriseOne และแอพพลิเคชัน Siebel สามารถได้รับประโยชน์จากการจัดเก็บข้อมูลแบบวัน คลิ๊ก แอพพลิเคชั่นโพซิชั่นนิ่งที่ได้รับการพัฒนาและลดความซับซ้อนของการค้นหาสัญญาณตัวเอง (Manual Tuning) และการบริหารจัดการอื่น ๆ อีกด้วย
ผู้ใช้ยังได้รับประโยชน์จากระบบซอฟต์แวร์คิวโอเอส พลัส( QoS Plus) ที่จะมอบประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดในการจัดการเค้าโครงงานต่าง ๆ ขององค์กร ระบบความยืดหยุ่นในการส่งข้อมูล การคำนวณล่วงหน้าของพื้นที่เก็บข้อมูลโดยวิเคาระห์ข้อมูลอย่างละเอียดรวดเร็วและลดจำนวนข้อมูลย่อยต่างๆ คิวโอเอส พลัสคือการรวบรวมการจัดลำดับของการใช้งานข้อมูลโดยประเมินข้อมูลและจัดเก็บใน 4 ระดับของตัวบันทึกซึ่งให้การทำงานอย่างประสิทธิในราคาย่อมเยา
นอกจากนี้ยังได้รับการสร้างแฟลชเจนเนอเรชั่น 5 และนวัตกรรมอื่น ๆ อาทิ Oracle Exadata และฐานข้อมูลตัวแรกแบบ flash-aware และ Oracle Database 11g Release 2 ออราเคิลสตอเรจ FS1 คือการร่วมกันของออราเคิลเซฟเวอร์ ระบบปฏิบัติการ แอบพลิเคชั่นและฐานข้อมูลเข้าด้วยกันสำหรับการปฏิบิติงานอย่างประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งออราเคิลสตอเรจ FS1 ให้การทำงานที่แตกต่างจากแฟลช อาเรย์อื่น ๆ โดยให้องค์กรมีทางเลือกในการใช้พื้นที่ของฮาร์ดดิสโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานทั้งหมดของแฟลช อาเรย์
ด้วยระดับหน่วยความจำถึงเพตะไบต์ ออราเคิลสตอเรจ FS1ซีรี่ย์ถือเป็นระบบการเก็บข้อมูลที่ให้การทำงานประสิทธิภาพสูงสุดในผลิตภัณฑ์ออราเคิล ระบบการจัดการใหม่ คิวโอเอส พลัส ซอฟต์แวร์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุนการทำงานโดยการติดตั้งฮาร์ดดิสก์ได้หลายแบบอย่างละเอียดและระบบการป้องกันสำหรับแอบพลิเคชั่นที่สามารถรองรับผู้ใช้หลาย ๆ คนในเวลาเดียวกันด้วยความปลอดภัย และข้อมูลที่แยกผู้ใช้อิสระต่อกันสำหรับทุกระดับของสตอเรจแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ FS1 ซีรี่ย์ยังได้รับการออกแบบเพื่อให้บริการเก็บรักษาและการวัดผลการทำงานล่วงหน้าจากภายใต้ระบบของ Oracle FS1 Series ออราเคิลFS1-2 สร้างบล็อกเพิ่มถึง 8 เท่าสูงกว่าความเร็วในปริมาณการอ่านและเขียนไฟล์ต่อ 1 วินาที (IOPS) และ 9.7 เท่าสูงกว่า EMC XtremIO X-Bricks โดยราคาถูกลงกว่าครึ่ง ด้วยศักยภาพของแฟลชสตอเรจที่สามารถใช้งานของพื้นที่ดิสก์ ออราเคิลสตอเรจ FS1ซีรี่ย์เป็นเพียงระบบสตอเรจเดียวที่มีตัวอัตโนมัติจัดการข้อมูลใน 4 ระดับชั้นสตอเรจเทียร์ การใช้การจัดลำดับการทำงานและแอพพลิเคชั่นการจัดปริมาณการทำงาน (workload) สามารถช่วยลดพื้นที่ต่อ IOP และเทระไบต์
ออราเคิลFS1-2 ให้ประสิทธิภาพการทำงานมากกว่า HP 3PARถึง 400 เท่า และEMC VNX2 สามารถขับเคลื่อนข้อมูลได้ถึง 640KB บล็อก ด้วยการขับเคลื่อนข้อมูลนี้ทำให้ใช้พื้นที่ฐานข้อมูลออราเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมาะสม โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียเวลากับข้อมูลที่ไม่ได้คุณภาพ ออราเคิล FS1 ซีรี่ย์แตกต่างจากอาเรย์แบบแฟลชแบรน์อื่น ๆ ที่สามารถรองรับทั้ง flash และHDD
การทำงานร่วมกันระหว่าง Oracle Database และ Oracle Applications ส่งผลให้ความสามารถในการทำงานของออราเคิล FS1 ซีรี่ย์เกิดประสิทธิภาพดังต่อไปนี้ Hybrid Columnar Compression สามารถเพิ่มข้อมูลได้ถึง 10-15เท่า การพัฒนาแอพพลิเคชั่นและการจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย single-click provisioning และการพัฒนาของ Oracle Database และ Oracle Applications
ออราเคิล FS1 ซีรี่ย์ยังมอบระบบปฏิบัติการที่หลากหลายและระบบปฏิบัติการแบบไฮเปอร์ไวเซอร์เพื่อรองรับระบบการทำงานOracle Linux, Oracle Solaris, Oracle VM, IBM AIX, HP-UX, Microsoft Windows และ VMware ออราเคิล FS1 ซีรี่ย์ จะทำการรวบศูนย์กลางในการเร่งหาข้อมูลและพัฒนาคลาวด์ด้วยความปลอดภัยโดยใช้ออราเคิลสตอเรจ FS1 โดเมน ที่ผสมผสานระบบ lock-down security
Mike Workman ดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสของ Oracle Storage กล่าวว่า “Oracle FS1 ซีรีย์ก่อให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ สำหรับแอพพลิเคชันในการจัดเก็บข้อมูลที่อีคลิปส์โซลูชั่น SAN จาก EMC NetApp HP และ IBM นอกจากนั้นยังทำให้ลูกค้าสามารถใช้สิ่งจำเป็นทางธุรกิจในการขับเคลื่อนการลงทุนทางไอทีแทนการจำกัดศักยภาพทางธุรกิจในด้านไอที Oracle FS1 ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเทคโนโลยีระบบจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชเพื่อสนับสนุนความต้องการและการทำงานที่มากมายผ่านศูนย์กลางข้อมูลที่มีการขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลาในปัจจุบัน และเมื่อมีการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Oracle Database อาทิ Hybrid Columnar Compression Automatic Data Optimization และ Oracle Enterprise Manager จะทำให้ลูกค้าสามารถประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนของค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงปฏิบัติการที่มากขึ้น”