กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--Worklink da Agency
ECF โชว์ผลประกอบการงวด 9 เดือน กวาดรายได้ 944.89 ล้านบาท กำไรสุทธิ 57.94 ล้านบาท โต 69.50 % ยอดขายเพิ่มต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายออนไลน์ สร้างแบรนด์ ดันยอดขายทั่วประเทศ ยังคงตั้งเป้าทั้งปีรายได้โต 15% แตะ 1,300 ล้านบาท คณะกรรมการบริษัทไฟเขียวจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ รวม 6 บริษัทเดินเครื่องลุย "โซลาร์รูฟฯ"
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 9 เดือนปีนี้ ว่า มีรายได้รวมทั้งสิ้น 944.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 855.72 ล้านบาทจำนวน 89.16 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 10.42% กำไรสุทธิ 57.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 34.18 ล้านบาท จำนวน 23.76 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 69.50%
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3 รายได้รวมทั้งสิ้น 303.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 295.28 ล้านบาท จำนวน 7.75 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 2.63% กำไรสุทธิ 21.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 19.37 ล้านบาท จำนวน 2.42 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 12.5% ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตเนื่องจากมีรายได้จากการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเป็นผลจากการบุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าเดิมในประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนกลุ่มลูกค้าใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา อิตาลี ตะวันออกกลาง มีคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งบริษัทยังมีการควบคุมต้นทุนการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 26% จากเดิมอยู่ที่ 24%
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงโค้งสุดท้ายปี 57 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการบุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าเดิมในประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มเพิ่มปริมาณคำสั่งซื้อ ตามการขยายตัวของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และความต้องการของตลาดในประเทศต่างๆที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อรายได้การส่งออก
ส่วนแนวโน้มตลาดในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งบริษัทมีแผนขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างๆให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ โดยในปัจจุบันมีแบรนด์ ELEGA ใน Index Living mall และ Homepro จำนวน 13 สาขา รวมทั้งมีแผนขยายโชว์รูมเพิ่มต่อเนื่องในช่วงปีหน้าและปีต่อ ๆ ไป รวมถึงการเติบโตเพิ่มขึ้นตามสาขาที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในกลุ่มลูกค้าโมเดิร์นเทรด อาทิ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี โฮมโปร ไทวัสดุ และนอกจากการขยายตลาดต่างประเทศและในประเทศแล้ว ECF ยังมีแผนการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยได้เริ่มดำเนินการเพิ่มช่องทางดังกล่าวเมื่อเดือน ต.ค. 57 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดี มีออเดอร์เข้ามาทางช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น และมองว่าในอนาคตน่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่จะสามารถผลักดันให้สัดส่วนรายได้ในประเทศเพิ่มมากขึ้น
นายอารักษ์ กล่าวต่อไปถึงการขยายธุรกิจใหม่ บริษัทผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) ว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการลงทุนจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ รวม 6 บริษัท ซึ่งได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ GUNKUL โดยถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 74.99 และ 25.01 ตามลำดับ โดยจะใช้พื้นที่หลังคาโรงงานของ ECF และพันธมิตรรวมกันติดตั้งแผงโซลาร์ ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมแล้วสำหรับ 13 – 16 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 30 เมกะวัตต์
ขณะที่ GUNKUL จะดำเนินการด้านระบบ การติดตั้ง ตลอดจนอุปกรณ์เทคนิคต่าง ๆ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งในอนาคตหากโครงการดำเนินการแล้วเสร็จ ECF จะรับรู้รายได้จากค่าเช่าพื้นที่หลังคา และส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของบริษัทในอนาคต
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คชภพ สงวนวงศ์ / ปุณณดา สงวนวงศ์
โทร: 02-718-2621
Email: boy@worklink.co.th / p-bowling@worklink.co.th