กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--Mcfiva
มาถึงช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนยังคงมองหาการลงทุนเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว แถมด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งคงจะหนีไม่พ้นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
ในปัจจุบันนักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น อีกทั้งยังได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนดอีกด้วย LTF จึงเป็นที่นิยมและน่าสนใจในหมู่นักลงทุน LTF มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทย LTF ของอเบอร์ดีนคือ กองทุนเปิด อเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว (ABLTF) ซึ่งมีนโยบายการลงทุนระยะยาวในหุ้นสามัญของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการเลือกหุ้นที่มีคุณภาพ และประวัติการจ่ายเงินปันผลดี ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียน 150 บริษัทแรกที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง
สำหรับนักลงทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่งคั่งในวัยเกษียณ RMF ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักลงทุนที่หาโอกาสการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนในระยะยาวที่สูงกว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ โดย RMF นั้นมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ หรือมีนโยบายการลงทุนแบบผสมตลอดจนลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ นักลงทุนที่ลงทุนใน RMF จึงสามารถเลือกที่จะกระจายการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงได้อีกด้วย RMF ของเบอร์ดีน มีให้เลือก 3 กองทุนคือ กองทุนเปิด อเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ (ABSC-RMF) ซึ่งมีนโยบายในหุ้นสามัญที่มีปัจจัยพื้นฐานดี กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (ABAPAC-RMF) ที่ลงทุนในกองทุนหลัก อเบอร์ดีน แปซิฟิค เอคควิตี้ ฟันด์ (กองทุนหลัก) ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์เพียงกองทุนเดียวไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักจะทำการกระจายการลงทุนในกลุ่มหลักทรัพย์ในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิคแต่ไม่รวมญี่ปุ่น และสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ อเบอร์ดีนขอแนะนำ กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมาร์ทอินคัม เพื่อการเลี้ยงชีพ ชึ่งเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจและ/หรือตราสารแห่งหนี้อื่นๆ ที่ค้ำประกัน โดยกระทรวงการคลัง
อเบอร์ดีนเป็นบริษัทจัดการลงทุนระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจจัดการลงทุนเพียงอย่างเดียว จึงมีความเชี่ยวชาญในการลงทุนประกอบกับมีการวิเคราะห์บริษัทที่จะไปลงทุนด้วยตัวเอง ทำให้มีความรู้ความเข้าใจและเลือกทุนในบริษัทที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว ในแง่ของความสะดวกสำหรับผู้ลงทุน อเบอร์ดีนยังมีช่องทางเพื่อให้ผู้ลงทุนนั้นสามารถทำการลงทุนได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายโดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ในกองทุนของอเบอร์ดีนโดยใช้เลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจากการเปิดบัญชีที่สามารถใช้ซื้อกองทุนของอเบอร์ดีนได้ทุกกอง เพื่อให้ง่ายเเก่การจดจำและเป็นการประหยัดเวลาหากผู้ลงทุนต้องการที่จะลงทุนในกองทุนใหม่ ๆ อีกทั้งทางอเบอร์ดีนยังได้จัดให้มีบริการ FastTrack เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุนในการซื้อกองทุน โดยผู้ลงทุนสามารถนำแบบฟอร์มชำระเงิน (B-Pay form) ไปชำระเงินได้ที่ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารกสิกรไทย หรือชำระเงินผ่านเอทีเอ็ม ระบบอินเทอร์เน็ต ระบบธนาคารทางโทรศัพท์ ของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ข้างต้นที่ผู้ลงทุนใช้บริการอยู่เพื่อทำการชำระค่าซื้อหน่วยลงทุนโดยไม่ต้องเสียเวลากรอกใบคำสั่งซื้อหน่วยลงทุน ทางอเบอร์ดีนยังได้เพิ่มช่องทางบริการใหม่สำหรับลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตในเครือกรุงศรีสามารถกรอกแบบฟอร์มคำสั่งซื้อพร้อมแนบสำเนาหน้าบัตรเครดิตและส่งมายังบลจ.อเบอร์ดีนเพื่อดำเนินการซื้อกองทุนต่อไป (พิเศษเฉพาะกองทุน ABLTF, ABSC-RMF และ ABAPAC-RMF ขั้นต่ำ 20,000 บาท ต่อครั้ง ต่อกองทุน) และเพิ่มความสะดวกสบายด้วยช่องทางการทำรายการออนไลน์ (e-avenue) เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ประหยัดเวลาและปลอดภัยให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการบริหารพอร์ตการลงทุนของตนเองอย่างใกล้ชิด และจัดให้มีแผนการลงทุนรายเดือนสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
พิเศษ รับฟรีหน่วยลงทุนอเบอร์ดีน แคชครีเอชั่น มูลค่า 100 บาท เมื่อลงทุนทุกๆ 50,000 บาท ในกองทุนรวม LTF และ RMF ของอเบอร์ดีน เป็นไปตามเงื่อนไข
***โปรดเตรียมบัตรประชาชนและสมุดบัญชีธนาคารสำหรับการเปิดบัญชีกองทุนรวม (เพื่อความสะดวกขอแนะนำสมุดบัญชีธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารกสิกรไทย)***
สอบถามข้อมูลติดต่อ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร.0-2352-3388
e-mail: client.services.th@aberdeen-asset.com
aberdeen-asset.co.th
ติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่บลจ.อเบอร์ดีน หรือผู้สนับสนุนการขาย หรือดาวน์โหลดผ่านทางเว็บไซต์
ของบลจ. การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงาน และคู่มือภาษีของกองทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน