กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--ช.การช่าง
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันที่ 10 พฤศจิกายน 2557 บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น เฟส 2 (หรือ BIC-2) ของบริษัท บางประอินโคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าโครงการ 4,310 ล้านบาท ครอบคลุมงานด้านวิศวกรรม จัดซื้อ ติดตั้ง และดำเนินการทดสอบระบบโรงไฟฟ้า ระยะเวลาดำเนินการ 29 เดือน การลงนามโครงการโรงไฟฟ้า BIC 2 นี้ ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัท ซึ่งจะเพิ่มงานในมือของบริษัทอีกกว่า 4,000 ล้านบาท ในส่วนของงานก่อสร้างนั้น บริษัทมีความมั่นใจและมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมากในการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น เนื่องจากได้สร้างโรงไฟฟ้า BIC 1 มาแล้ว โดยสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาและในงบประมาณที่แน่นอน
และขณะนี้ ช.การช่างและ ซีเค พาวเวอร์ อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า SPP ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เช่นพลังงานแสงอาทิตย์และลม คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้ และในวันที่ 23 ธันวาคม 2557 บริษัทจะมีการลงนามโครงการขยายกำลังการผลิต พื้นที่สมุทรสาคร-นครปฐม และพื้นที่ปทุมธานี-รังสิต มีรวมมูลค่าทั้งหมด 3,280 ล้านบาท ซึ่งทำให้ Backlog ของบริษัท เพิ่มขึ้นกว่า 7,000 ล้านบาท โดย Backlog ณ สิ้นปีมีมูลค่า กว่า 100,000 ล้านบาท
ดร.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ถือเป็นอีกเป้าหมายของ ซีเค พาวเวอร์ ที่สามารถลงนามสัญญาได้อย่างเรียบร้อยภายในปีนี้ ซึ่งโรงไฟฟ้า BIC 2 มีกำหนดการเปิดขายไฟเชิงพาณิชย์ในปี 2560 จะสร้างรายได้ให้กับ ซีเค พาวเวอร์ ขั้นต่ำปีละ 3,000 ล้าน ในส่วนของผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 จะเป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการดีที่สุดในรอบปี เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ทำให้รายได้ของเขื่อนน้ำงึม 2 มากขึ้น โดยเก้าเดือนจะมีรายได้กว่า 5,000 ล้านบาท
โรงไฟฟ้า BIC-2 ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นโรงไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำจากระบบโคเจนเนอเรชั่น โดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีขนาดกำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์และกำลังการผลิตไอน้ำสูงสุด 20 ตันต่อชั่วโมง เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจำนวน 90 เมกะวัตต์ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปี เสริมศักยภาพการผลิตไฟฟ้าในประเทศ ส่วนไฟฟ้าและไอน้ำส่วนที่เหลือจะจำหน่ายให้แก่บริษัทที่อยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน