กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--กรมประมง
ดร.จุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดปรากฎการณ์หอยครางถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งบริเวณแนวชายหาดทะเลปากพนัง จากการที่ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ คาดสาเหตุเกิดจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่พัดผ่านเข้าสู่บริภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ส่งผลให้ในทะเลมีคลื่นลมพัดเข้าชายฝั่งอย่างรุนแรงต่อเนื่องในช่วงวันที่ 8 – 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีหอยจำนวนมาก อาทิ หอยคราง หอยเชลล์ หอยตาไซ หอยกะพง หอยใบพู และเศษซากเปลือกหอยถูกคลื่นซัดขึ้นเกลื่อนชายฝั่งเป็นระยะทางยาวกว่า 200 – 300 เมตร คาดว่าจะมีจำนวนมากถึง 2 – 3 ตัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติเวลามีคลื่นลมแรงในทะเล และที่จังหวัดนครศรีธรรมราชก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วเมื่อประมาณ 2 - 3 ปีก่อน
นายธนาวุฒิ กุลจิตติชนก ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาประมงพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมประมง กล่าวเสริมในรายละเอียดว่า เมื่อได้รับแจ้งว่ามีหอยจำนวนมากถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งบ้านขนาบนาก หมู่ที่ 10 ตำบลท่าพญา อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ลงไปตรวจสอบพบ หอยที่ถูกพัดขึ้นมา ส่วนใหญ่เป็นหอยครางขนาดเล็ก (ประมาณ 90 – 100 ตัว/กิโลกรัม) ซึ่งมีชาวบ้านนับร้อยคนแห่มาเก็บหอยกันอย่างคึกคัก ทั้งเอาไปรับประทานเอง และเอาไปจำหน่าย ซึ่งบางคนคนสามารถเก็บหอยไปได้มากถึง 50 – 100 กิโลกรัม และมีคนมารับซื้อถึงที่ในราคากิโลกรัมละ 20 - 30 บาท ตามขนาดของหอย ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมอย่างต่ำ 500 บาทต่อคน อย่างไรก็ตาม ฝากประชาชนที่นำหอยไปรับประทาน เพราะในเนื้อหอยจะมีทรายปนอยู่มาก ดังนั้น ก่อนนำไปปรุงอาหารควรต้องนำไปแช่น้ำเค็มที่สะอาดเพื่อให้หอยคายทรายออกมาก่อนหรืออาจใช้พริกขี้หนูทุบแล้วแล้วใส่ในน้ำเพื่อให้หอยคายทรายเร็วขึ้น