กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--ซีพีเอฟ
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” รายงานผลการดำเนินการรอบระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2557 มียอดขายจำนวน 316,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%โดยกิจการประเทศไทยมียอดขายเพิ่มขึ้น 8% กิจการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 13 %
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารกล่าวถึงผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนปีนี้ว่า “ยอดขายของบริษัทเป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ คือ เติบโตอย่างน้อย 10% จากปีที่แล้ว โดยการเติบโตส่วนใหญ่จะมาจากกิจการในต่างประเทศที่บริษัทไปลงทุนสร้างธุรกิจในประเทศต่างๆ รวม 13 ประเทศ ณ ปัจจุบัน ซึ่งในวันนี้ทำให้บริษัทมียอดขายที่จำหน่ายในประเทศไทยประมาณ 35% ของยอดขายรวม ยอดขายจากประเทศอื่นๆที่บริษัทลงทุนมีจำนวน 59%และยอดขายจาการส่งออกไปมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลกอีกจำนวน 6%”
กำไรสุทธิในรอบ 9 เดือนจำนวน 9,754 ล้านบาทนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 84% โดยมีปัจจัยหลักจากการฟื้นตัวของธุรกิจสัตว์บกที่ประสบภาวะผลผลิตล้นตลาดในปลายปี 2553 ต่อเนื่องปี 2554 ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากประมาณ 9%ของปีที่แล้ว เป็น 14% ในปีนี้ อย่างไรก็ตามธุรกิจสัตว์น้ำของบริษัทยังอยู่ในระหว่างการบริหารจัดการกับการเกิดขึ้นของโรคEMS (Early Mortality Syndrome)ที่ทำให้เกิดการชะลอตัวของการเลี้ยงกุ้งในประเทศไทย
นอกเหนือจากการฟื้นตัวของธุรกิจตามลำดับแล้วนั้น บริษัทได้มีการตัดสินใจขายหุ้นCPP ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง จำนวน 25%ให้กับ ITOCHU Corporation ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีผลทำให้ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น โดยมีอัตราหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลงจาก 1.29 เท่าเมื่อปลายปี 2554 เป็น 0.94 เท่า ณ สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นายอดิเรกได้กล่าวในตอนท้ายถึงกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตของบริษัทว่า การเติบโตของบริษัทในอนาคตส่วนใหญ่จะมาจากต่างประเทศเป็นหลัก โดยรวมถึงการเข้าซื้อกิจการที่สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจเพิ่มให้กับบริษัทได้ โดยบริษัทมีนโยบายที่จะเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทเท่านั้น และได้มีการศึกษาหาโอกาสทางธุรกิจมาโดยตลอดโดยเฉพาะในต่างประเทศ ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารเป็นหลัก