กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--โฟร์ฮันเดรท
“เบ็นคิว” รุกตลาดโฮมเธียเตอร์โตไม่หยุด ดันโปรเจ็ค “เบ็นคิว เปลี่ยนห้องนั่งเล่นของคุณให้เป็นโรงหนัง” กับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะมาเปลี่ยน concept ของห้องนั่งเล่นภายในบ้านของคุณให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ขนาดย่อมๆ เข็นโปรเจคเตอร์ รุ่น W1070+ และ W1080ST+ รุ่นใหม่ล่าสุด หลังจากที่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายของรุ่นที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดโปรเจคเตอร์ของเมืองไทย ด้วยโปรเจคเตอร์สีสันสมจริงเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ เพื่อคุณภาพภาพที่ดีเยี่ยม พร้อมรักษาแชมป์ผู้นำตลาด Home Video Projector ตั้งเป้าโต 100 % หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของมูลค่าตลาดรวมในส่วนของ VDO Projector
นายพัทธกร พรศิริธิเวช ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมดิจิตอลไลฟ์สไตล์ ที่จะนำความเพลิดเพลิน และคุณภาพมาสู่ชีวิต ด้วยปรัชญา “Because It’s Matters” เปิดเผยว่า ในปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีทองของเบ็นคิวอีกปี โดยเฉพาะตลาดโปรเจคเตอร์ในไทย ที่มีอัตราการเติบโตไม่หยุด ในฐานะที่ “เบ็นคิว” เป็นหนึ่งในผู้นำตลาด Home Video Projector อยู่ในขณะนี้ หวังมุ่งสร้าง และยกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น เบ็นคิว จึงได้จัดกิจกรรม “เบ็นคิว เปลี่ยนห้องนั่งเล่นของคุณให้เป็นโรงหนัง” พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะมาเปลี่ยน concept ของห้องนั่งเล่นภายในบ้านของคุณให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ขนาดย่อมๆ คือโปรเจคเตอร์ รุ่น W1070+ และ W1080ST+ ด้วยความคมชัดระดับ 1080p*
เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่น่าตื่นตาอย่างถึงที่สุด BenQ จึงใส่ประสิทธิภาพของภาพ "สีสันสมจริงเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ ” ลงไปใน W1070+ และ W1080ST+ สีที่ไม่ผิดเพี้ยนและเหมือนจริงนี้ เกิดจากขอบเขตสีจำลอง REC. 709 รวมทั้งการเพิ่มความเร็วที่หกเท่า วงล้อสีหกสี RGBRGB และเทคโนโลยี BrilliantColor™ ไม่มีรายละเอียดใดจะหลุดรอดสายตาคุณได้ในพื้นสีดำสนิทที่มาพร้อมกับอัตราความชัดลึกของภาพ native ANSI ที่สูง ซึ่งเพิ่มขึ้นเนื่องจากความสว่าง 2200 ANSI lumen และเทคโนโลยี DLP DarkChip3TM และ DMD
ทั้ง W1070+ และ W1080ST+ พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการฉายภาพที่ความคมชัดระดับ Full HD 3 มิติ เพื่อให้คุณดื่มด่ำไปกับความสุขล้นจากความบันเทิงภายในบ้าน นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นได้รับการรับรองมาตรฐาน ISFccc® ในด้านการสอบเทียบโดยมืออาชีพจาก Imaging Science Foundation เพื่อที่คุณจะได้สัมผัสประสิทธิภาพสีของโปรเจคเตอร์ที่มีการสอบเทียบโดยกำหนดค่าเองให้เหมาะกับพื้นที่อาศัยของคุณ
นายพัทธกร กล่าวต่อไปว่า "เราคาดว่าความต้องการของตลาดโฮมโปรเจคเตอร์ความคมชัดระดับ Full HD จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน การที่เราเป็นผู้นำตลาดในส่วนของโปรเจคเตอร์ความคมชัดระดับ 1080p* เราจึงมุ่งที่จะตอบสนองความต้องการของตลาดด้วยรุ่นใหม่ๆ "W1070+ และ W1080ST+ เพื่อตอบความต้องการของบรรดาพ่อแม่วัยหนุ่มสาวที่กำลังมองหาวิธีการง่ายๆ สนุกสนานอย่างมีคุณภาพ ทั้งสามารถใช้เวลาอันมีค่ากับครอบครัวและลูกๆ โฮมวิดีโอโปรเจคเตอร์รุ่นใหม่นี้เป็นผลิตผลของการทำงานอย่างหนักของเรา เพื่อนำโรงภาพยนตร์ที่สุดแสนจะเรียบง่ายเข้ามาอยู่ภายในบ้านของครอบครัวหนุ่มสาวยุคใหม่”
W1080ST+ ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกด้านการฉายภาพระยะใกล้ของ BenQ เพื่อให้ความเพลิดเพลินในการชมภาพยนตร์ ด้วยความกว้างของภาพขนาด 100 นิ้ว ในระยะฉายเพียง 1.5 เมตร ส่วนรุ่น W1070+ จะสามารถฉายภาพขนาดกว้าง 100 นิ้ว ที่ระยะ 2.5 เมตร การที่ W1080ST+ มาพร้อมกับความสามารถในการฉายภาพระยะใกล้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก และการเล่นเกมที่ใช้การเคลื่อนไหวและท่าทาง เนื่องจากสามารถตั้งไว้ใกล้ ๆ หน้าจอเพื่อเลี่ยงการบังจากเงามืด การติดตั้ง และการตั้งค่าทำได้ง่ายๆ สามารถทำตามตัวช่วยในการตั้งค่า (set-up wizard) ซึ่งจะแนะนำขั้นตอนการตั้งค่าด้วยคำสั่งที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย อีกทั้งรูปแบบในการเชื่อมต่อ (user interface) ด้วยสายเคเบิ้ล MHL จากโทรศัพท์มือถือ ก็สามารถรับชมความมันส์บนหน้าจอขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ด้วยราคาช่วงแนะนำ รุ่น W1070+ ราคา 43,900 บาท และรุ่น W1080ST+ ราคา 46,900 บาท
นายพัทธกร กล่าวต่อไปว่า กลยุทธ์ทางการตลาดของ BenQ ณ ปัจจุบันยังคงเน้นไปที่การทำโปรโมชั่น และการโฆษณาผ่านสื่อชนิดต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ เช่น Facebook, Google, Social Community & Webpage หลายๆ ด้าน เพื่อสื่อสารไปยัง End user โดยตรง ทั้งนี้ลูกค้าสามารถพูดคุย สอบถาม ตลอดจนร่วมกิจกรรมกับทาง BenQ ได้ ใกล้ชิดมากขึ้นผ่านหน้า Facebook fan page
“สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย BenQ เรามีคู่ค้า และพันธมิตรทางการค้ากระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมทั้งช่องทาง E-Commerce และในไตรมาสนี้ BenQ ได้ตั้งเป้าว่าเราจะรักษาไว้ซึ่งความเป็นเบอร์ 1 ในแง่ของยอดขายสำหรับสินค้าในกลุ่ม Home Video Projector ดังนั้นเพื่อเป็นการผลักดันสินค้า ทั้งยังเพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบและได้ผลเราจึงได้จัดทำ campaign ภายใต้ concept “Turn Your Living Room Into Cinema” ที่จะส่งสารตรงไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ให้ได้รับทราบถึงมุมมองและภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน ทั้งยังวางเป้าหมายในการเติบโตไว้เต็มพิกัด ตั้งเป้าส่วนครองตลาดที่ร้อยละ 60 ของมูลค่าตลาดรวม ในส่วนของ VDO Projector” นายพัทธกร กล่าว และว่า
“ระยะหลังมานี้ ตลาด Projector ในครัวเรือนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มเป็นอย่างมากของเรา ทั้งนี้เนื่องจากคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องการใช้งาน ทั้งยังครอบคลุมไปถึงความบันเทิง ทั้งในเรื่องของราคา ที่เมื่อเทียบกับทีวีขนาดใหญ่แล้ว เรียกว่าถูกกว่าเป็นเท่าตัว อีกทั้งหลอดภาพที่มีอายุการใช้งานนานนับหมื่นชั่วโมง ทำให้ความต้องการใช้โปรเจคเตอร์ในภาคครัวเรือนขยายตัวสูงขึ้นอย่างเป็นประวัติการณ์ การมี Mini Theater อยู่ภายในบ้านไมใช่เรื่องที่ไกลจนเกินเอื้อม และไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป
ข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อถือเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่เบ็นคิวของเราใส่ใจ ดังนั้นเราจึงเน้นในเรื่องของการให้ความรู้ การรีวิวผลิตภัณฑ์ ที่จะสามารถสื่อสารผ่านโลกออนไลน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ ตลอดจนเรื่องของการแชร์ข้อมูล ในลักษณะของการใช้แล้วบอกต่อ โดยอาศัยช่องทาง Social Network เข้ามาช่วยในการกระจายข่าวสาร และเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งนับว่าได้ผลดียิ่ง สามารถกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้อย่างเป็นผล
อย่างไรก็ตาม การทดสอบผลิตภัณฑ์จริงก็ยังมีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความมั่นใจ ดังนั้นหลังจากที่ศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดีแล้ว ผู้บริโภคก็จะมุ่งตรงไปยังร้านค้า เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ และใช้เป็นข้อมูลประกอบการการตัดสินใจซื้อขั้นสุดท้าย และนั่นก็คือบทสรุปที่ว่า พาร์ทเนอร์ หรือ ดีลเลอร์ มีความสำคัญกับเราเพียงใด” นายพัทธกร กล่าวทิ้งท้าย