อนันดาฯ โชว์ผลงานรายได้ Q3 เติบโตก้าวกระโดด 80% กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมปรับเพิ่มเป้ายอดขายทั้งปี 73% เตรียมเปิดโครงการใหม่ปีหน้าอีกเท่าตัว

ข่าวอสังหา Thursday November 13, 2014 10:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้า โชว์ศักยภาพการดำเนินงาน ประกาศความสำเร็จอีกครั้ง เติบโตอย่างมั่นคง ไตรมาส 3 ของปี 2557 สร้างรายได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิถึง 225 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 96 ล้านบาท พร้อมโชว์ความสำเร็จจากการเปิดโครงการใหม่ สามารถปิดการขาย 100% ได้ถึง 2 โครงการ นอกจากนี้บริษัทได้เปิดเผยแผนธุรกิจในปี 2558 เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าสูงกว่า 29,000 ล้านบาท พร้อมคาดการณ์รายได้ และยอดขายที่เติบโตกว่า 23% และ 14% ตามลำดับ นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูงเกินจากแผนการดำเนินงานที่ตั้งไว้ โดยนับว่าเป็นปีที่บริษัทมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งในด้านยอดขายและการเปิดตัวโครงการเพื่อตอบรับของกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ โดยบริษัทฯ สามารถสร้างรายได้ในไตรมาส 3 ปี 2557 จำนวน 2,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 80% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้บริษัทฯมีกำไรจากการโอนที่ดินให้กับโครงการ Ashton Asoke ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมทุนกับ Mitsui กว่า 110 ล้านบาท และมีรายได้อื่น 59 ล้านบาท บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มเป้ารายได้ทั้งปีเป็น 10,032 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากเป้าหมายที่ให้ไว้ก่อนหน้าที่ 9,070 ล้านบาท จากยอดโอนที่ดีกว่าคาด และโครงการใหม่ 2 แห่ง ที่จะแล้วเสร็จได้ตามกำหนด และเริ่มโอนได้ในไตรมาสที่ 4 นี้ นอกจากนี้ไตรมาสนี้บริษัทฯ ได้โชว์กำไรกว่า 225 ล้านบาท เติบโตอย่างมากจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 96 ล้านบาท ซึ่งเทิร์นอะราวน์กว่า 321 ล้านบาท ในไตรมาสนี้บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า 4 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการ แอชตัน อโศก, ไอดีโอ คิว สยาม-ราชเทวี, ไอดีโอ โมบิ สุขมวิท อีสท์เกต และไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้เปิดขายให้แก่ลูกค้าเก่าของบริษัทฯ (AMC-Ananda Member Club) และลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมจากงาน “IDEO URBAN PULSE” ที่สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 16-19 ตุลาคมที่ผ่านมา ไฮไลท์อยู่ที่โครงการ แอชตัน อโศก มูลค่าโครงการกว่า 6,700 ล้านบาท และไอดีโอ คิว สยาม-ราชเทวี มูลค่าโครงการกว่า 3,800 ล้านบาท สามารถปิดการขาย Sold out 100% ทั้ง 2 โครงการ โดยเฉพาะโครงการแอชตัน อโศก ที่มีความสนใจซื้อถึง 3 เท่า ของยูนิตที่มี ส่วนอีก 2 โครงการใหม่ ไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ มูลค่าโครงการกว่า 1,800 ล้านบาท และไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกต มูลค่าโครงการกว่า 2,600 ล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน ด้วยมูลค่ายอดขายกว่า 63% และ 40% ตามลำดับ จากความสำเร็จการเปิดตัวโครงการใหม่ใน 2 อีเวนท์นี้ ทำให้บริษัทฯ สร้างยอดขายในไตรมาส 3 กว่า 11,545 ล้านบาท และปรับเพิ่มเป้ายอดขายทั้งปีเป็น 20,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 73% จาก 11,663 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายโครงการใหม่ และโครงการเดิมที่ดีกว่าคาด ส่วนยอดรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเป็น 26,741 ล้านบาท โดยมีกำหนดโอนตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2557 กว่า 20,131 ล้านบาท จากยอดขายโครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้า และยอดขาย จากโครงการใหม่ 4 โครงการมูลค่า 14,950 ล้านบาท ที่เปิดตัวในปีนี้ ส่วนอัตราส่วนที่ลูกค้ายกเลิกการซื้อคอนโดมิเนียมในปี 2557 อยู่ในระดับไม่เกิน 2% และอัตราส่วนลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน อยู่ในระดับไม่เกิน 3% ซึ่งคาดหวังว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะไม่เพิ่มขึ้นในปีหน้า บริษัทฯ ประกาศแผนดำเนินธุรกิจในปี 2558 โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 23% จากปี 2557 จากโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้ และยอดขายเติบโต 14% จากการเปิดโครงการคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบใหม่ มูลค่ากว่า 29,000 ล้านบาท ทั้งนี้ปี 2558 มีแผนสร้างรายได้ และยอดขายให้เติบโต 23% และ 14% ตามลำดับ ด้วยความระมัดระวังต่อสภาพเศรษฐกิจ แม้ว่ามองเห็นโอกาสในการเติบโตจากปี 2557 “อนันดาฯ รู้สึกยินดีกับความสำเร็จในไตรมาสนี้ โดยเฉพาะโครงการใหม่ที่ได้รับผลตอบรับที่ดี ซึ่งทำให้ อนันดาฯ เป็นผู้นำคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และเชื่อว่าจะก้าวเป็นอันดับที่ 2 ของยอดขายคอนโดมิเนียมทั่วประเทศ และในปีหน้าพร้อมรักษาความเป็นผู้นำต่อไป และถึงแม้ว่าอนันดาฯ จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่จะยังรักษาวินัยทางการเงินที่แข็งแกร่ง และดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนในระดับ 1:1 ซึ่งได้เคยกล่าวไว้กับนักลงทุน” นายชานนท์ กล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกระแสเงินสดในปี 2558 ที่มั่นคงและแข็งแกร่ง พร้อมกับนโยบายรักษาเงินสดในระดับ 1,000 ล้านบาทอยู่ตลอดเวลา และยังคงได้รับการสนับสนุนที่ดีจากธนาคาร รวมถึงมีทางเลือกหลายทางหากจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน นอกจากนี้ในปีหน้า มีแผนในการออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท ลดลงจากที่ออกหุ้นกู้กว่า 6,400 ล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากใช้กระแสเงินสดจากเงินทุนที่มีอยู่

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ