กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--บลจ.บัวหลวง
ทีมจัดการกองทุนบัวหลวง
โดย จันทร์เพ็ญ กิตติเวทย์วิทยา
SEZ จะช่วย Rerate ตลาดหุ้นไทย (บจ.ไทย)
ประเทศจีนถือว่าเป็นต้นแบบที่ดีของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยจีนเริ่มใช้แนวทางนี้ตั้งแต่ปี 1979 ภายใต้การปกครองของ “เติ้ง เสี่ยวผิง” ซึ่งเปิด “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” (Special Economic Zone : SEZ) ใน 4 พื้นที่ ได้แก่ เซินเจิ้น ซัวเถา จูไห่ และเซี่ยเหมิน นับว่าเป็นการพัฒนาที่มีความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะเมืองเซินเจิ้นที่ถูกพัฒนาจากหมู่บ้านชาวประมงและสวนลิ้นจี่จนกลายเป็นศูนย์กลางทางตอนใต้ของจีนที่ทันสมัยและเติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 20 ปี มีมูลค่าการนำเข้าส่งออกรวมในสัดส่วน ถึง1 ใน 7 ของมูลค่ารวมทั้งประเทศ และรักษาระดับมาได้อย่างต่อเนื่องถึง 10 ปี นอกจากนี้ เซินเจิ้นยังเป็นช่องทางการขนส่งและคมนาคมที่สำคัญ โดยเฉพาะการขนส่งบริเวณท่าเรือซึ่งมีปริมาณมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และเป็นอันดับ 6 ของโลก นอกจากนี้ ท่าอากาศยานในเมืองเซินเจิ้นก็ติดอันดับ 1 ใน 4 สนามบินใหญ่ของประเทศจีนอีกด้วย
ไทยได้ศึกษาเรื่อง “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” มานานแล้ว แต่ยังไม่มีการพัฒนาขึ้นมาในรูปแบบที่เป็นทางการ เนื่องจากยังมีข้อถกเถียงทางกฎหมายและการจะให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุน ทำให้ช่วงที่ผ่านมามีเพียงการพัฒนาในรูปแบบที่ต่างๆ กัน เช่น พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เขตอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก การพัฒนาเมืองใกล้ท่าเรือ/สนามบิน หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนแม่สอด เป็นต้น ซึ่งแนวคิดการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายความเจริญออกไปสู่พื้นที่ต่างๆ นอกเมืองใหญ่ และส่งเสริมการพัฒนา การค้า กับการลงทุนระหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เขตเศรษฐกิจพิเศษจึงได้รับสิทธิพิเศษที่เอื้อต่อการลงทุน ได้แก่ สิทธิพิเศษทางภาษีอากร การส่งเสริมการลงทุน ความพร้อมของปัจจัยการผลิต การอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกรรม และบริการพื้นฐานต่างๆ ตั้งแต่ระบบขนส่ง ไฟฟ้า ประปา
แผนยุทธศาสตร์การ “พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน” เป็น 1 ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเร่งด่วนของภาครัฐเพื่อพัฒนา 5 พื้นที่ชายแดนให้ก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างสมบูรณ์ในปี 2558 ซึ่งห้าชายแดนดังกล่าวนี้นี้ได้แก่ (1) แม่สอด จ.ตาก (2) อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (3) ตราด (4) มุกดาหาร (5) สะเดา จ.สงขลา (ด่านศุลกากรสะเดา และปาดังเบซาร์) โดยภาครัฐจะสนับสนุน 4 ด้าน ได้แก่
(1) ให้สิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุนทั้งด้านภาษีและด้านอื่นๆ
(2) ให้บริการจุดเดียวแบบเบ็ดเสร็จ (เชื่อมโยงศูนย์บริการด้านการลงทุนของ BOI ด้านสาธารณสุข และการตรวจคนเข้าเมือง)
(3) มาตรการสนับสนุนการใช้แรงงานต่างด้าว (จัดระบบแรงงานต่างด้าวและฝึกอบรมแรงงาน)
(4) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและด่านศุลกากรในพื้นที่ให้สามารถรองรับกิจกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจและเชื่อมโยงประเทศในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ เนื่องจากบทบาทของเมืองชายแดนส่วนใหญ่ในปัจจุบันคือการเป็นโลจิสติกส์และการค้าข้ามพรมแดนที่เชื่อมโยงกับฐานผลิตในภาคกลางของประเทศ ยังไม่มีฐานการผลิตและการบริการหลักในพื้นที่แต่อย่างใด รัฐบาลจึงให้ความสำคัญและเล็งเห็นถึงศักยภาพของเมืองสำคัญๆ ตามแนวชายแดนมากขึ้น เพราะนอกจากจะมีมูลค่าการค้าการลงทุนที่เติบโตสูงแล้ว การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนตามแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติให้เข้ามาในไทย (Foreign Direct Investments: FDI) เพื่อใช้ไทยเป็นจุดศูนย์กลางการผลิตและการลงทุน (Strategic Location) และทำการค้ากับประเทศใน ASEAN
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่จะทำให้การพัฒนามีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพได้ ย่อมเป็นการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎระเบียบและนโยบายภาษีที่เอื้อประโยชน์และช่วยลดต้นทุนสินค้าที่จะส่งออกให้มีราคาที่สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในท้องถิ่น เพื่อยกระดับศักยภาพของประเทศไทยให้เติบโตต่อเนื่องไปพร้อมๆ กับการเติบโตของ ASEAN ในระยะยาว
จากนี้ไปเราคงจะเห็นภาพการลงทุนครั้งใหม่ของไทย ทั้งการลงทุนจากภาครัฐผ่านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน รถไฟ สนามบิน สาธารณูปโภคพื้นฐาน การปรับปรุงและพัฒนาระบบการดำเนินงานที่เอื้อและดึงดูดต่อการลงทุน ทั้งส่วนภาคเอกชนที่เราจะได้เห็นการขยายการลงทุนออกไปยังจังหวัดต่างๆ ทั้งการสร้างโรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม ศูนย์กลางค้า ร้านค้าปลีก และการขยายชุมชนเมือง ซึ่งล้วนจะนำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาที่อยู่อาศัย และการบริโภคก็จะตามมาในที่สุด
ในแง่ตลาดหุ้นไทย เราเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว PE จะถูก Rerate ให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจในประเทศ จากการกระจายการลงทุนออกไปยังต่างจังหวัด (Provincial growth story) ซึ่งสุดท้ายจะสะท้อนกลับมาในรูปของ Earnings growth ของบริษัทต่างๆ (บจ.ไทย) โดยผู้ชนะหรือ The winners ที่แท้จริ งก็คือบริษัทที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในการลงทุนและขยายกิจการของตัวเองออกไปในต่างจังหวัดหรือในภูมิภาคก่อนคนอื่น ซึ่งทำให้มีความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว