กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--หอการค้าไทย
หอการค้าไทยร่วมกับหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ เตรียมจัดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 32 ที่จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 21-23 พ.ย. นี้ ระดมความคิด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเน้นสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทยกับเครือข่าย เพิ่มความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ พร้อมเชิญผู้นำทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนร่วมงาน
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยร่วมกับหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ กำหนดที่จะจัดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 32ขึ้น ในระหว่างวันที่ 21 – 23 พฤศจิกายน 2557 ณ จังหวัดเชียงราย เพื่อระดมความคิดเห็น และข้อเสนอแนะแนวทางการปรับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ให้ดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 1,000 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการหอการค้าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด และเลขาธิการหอการค้าจังหวัดจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ผู้แทนจากหน่วยงานราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และสื่อมวลชน
นายอิสระ กล่าวว่า การจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ นับว่าเป็นการจัดงานสัมมนาประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของหอการค้าไทย ซึ่งเป็นสถาบันภาคเอกชนทางด้านเศรษฐกิจของประเทศที่มีเครือข่ายกว้างขวางที่สุดของประเทศ โดยการสัมมนาปีนี้ ได้กำหนดแนวคิดหลักของงาน โดยใช้ชื่อ “เปลี่ยนหัวคิด ก้าวไป สู่ชัยชนะ”(Change Me : To be Excellent) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ต่อเนื่องจากงานสัมมนาเมื่อปีที่ผ่านมา “เปลี่ยนหัวคิด ตั้งใจสู่ชัยชนะ (Change Mind Change me: To be excellent) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับสมาชิกและผู้ประกอบการของไทย ให้สามารถแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเราจะเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้กับสมาชิกและผู้ประกอบการของไทย โดยเฉพาะ SMEs ว่าเราทำได้ เพียงแต่ต้องเริ่มจากการเปลี่ยน Mindset ตั้งใจที่จะเรียนรู้และปรับตัว ก็จะสามารถก้าวไปสู่ความเป็นเลิศได้
สำหรับภาพรวมของการจัดสัมมนา ในวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2557 จะมีการประชุมหอการค้า 5 ภาค เรื่อง “ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคเหนือ และแนวโน้มเศรษฐกิจ 5 ภาค” และการสัมมนากลุ่ม Young Entrepreneur Chamber of Commerce (YEC) เรื่อง “การขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของ YEC ผ่านหอการค้า”วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2557 ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “กระทรวงมหาดไทยกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค”โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังจากนั้นจะเป็นการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ และพิธีมอบรางวัลหอการค้ายอดเยี่ยม และในวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2557 จะเป็นการนำเสนอสรุปผลสัมมนาฯ การปาฐกถาพิเศษและปิดการสัมมนา
นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า นอกจากการประชุมและงานสัมมนาในวันที่ 21 พฤศจิกายนแล้ว หอการค้าไทย ยังกำหนดให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในภาคบ่าย ของวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2557 ในหัวข้อต่างๆ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถพร้อมด้วยกรณีศึกษาจากประสบการณ์จริงของผู้ประกอบการ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 เรื่อง “อาเซียน : โอกาสที่ไร้พรมแดน” (ASEAN : Borderless Opportunities)
นำเสนอมุมมองที่หลากหลาย รวมทั้งข้อมูลเชิงเทคนิคสำหรับผู้ประกอบการในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยชี้ให้เห็นโอกาส ความท้าทาย และสิ่งที่ไทยต้องดำเนินการในการเข้าสู่ AEC เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เข้าใจและเห็นภาพรวมเศรษฐกิจไทยและ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และต้องการให้ข้อมูลผู้ร่วมสัมมนาเกี่ยวกับปัจจัยที่ไม่ควรละเลย แม้จะมีการเปิดตลาดสินค้า/บริการและการลงทุน ภายใน AEC การสัมมมนาครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการจุดประกายให้ผู้ประกอบการได้รับทราบข้อมูลอย่างรอบด้านและสนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
กลุ่มที่ 2 เรื่อง “นวัตกรรม...เราต้องทำ!!” (Innovation…a Must !!)
นำเสนอเรื่องนวัตกรรม (Innovation) ว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโตทางธุรกิจซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว เนื่องจากนวัตกรรมเป็นการนำความคิดสร้างสรรค์ (Creative) หรือความคิด (Thinking) ไปสร้างให้เกิดเป็นรูปธรรม (Making) ผ่านกระบวนการผลิตสินค้าและบริการซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่ม และช่องทางการตลาดที่กว้างขวางขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำนวัตกรรมมาเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความโดดเด่นและความแตกต่างนั้นจะทำให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้อย่างรวดเร็วซึ่งไม่เพียงแต่ธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้นแต่รวมไปถึงธุรกิจขนาดกลางและย่อมหากมีนโยบายและแนวทางในเรื่องนวัตกรรมที่ชัดเจนก็จะสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงได้เช่นกัน
กลุ่มที่ 3 เรื่อง “ต้องเป็นเลิศตลอด !! ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ”(Being excellent the whole Value Chain)
ปัจจุบันภาคธุรกิจเอกชน ถูกแรงกดดันจากกระแสโลกาภิวัตน์ และการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ ดังนั้น ภาคธุรกิจควรทบทวนจุดอ่อน จุดแข็ง เพื่อสร้างความมั่นคง ยั่งยืน และก้าวสู่ความเป็นเลิศทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค ประเทศ และนานาชาติ ในขณะเดียวกันควรมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมุ่งพัฒนาธุรกิจเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันตลอด Value Chain โดยการสัมมนากลุ่มนี้ จะหยิบยกแนวทางการปรับเปลี่ยนความคิดและการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ผ่าน Best Practice ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก รวมทั้ง การสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทยกับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานเครือข่าย เพื่อสร้างความเข้มแข็งตลอด Value Chain
“หอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 32 ที่จังหวัดเชียงรายในครั้งนี้ จะเป็นอีกเวทีหนึ่งที่จะช่วยรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน เพื่อนำเสนอเป็นแนวทางให้กับภาครัฐในเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าของประเทศไทยอย่างเข้มแข็งต่อไป” นายอิสระ กล่าวสรุป