กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่ารายได้ค่าโฆษณาสำหรับทีวีดิจิตอลของไทยจะเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการกิจการโทรทัศน์รายใหม่ต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าจะคุ้มทุนและอาจส่งผลต่อสถานะทางการเงินของผู้ประกอบการได้ ในขณะที่ผู้ประกอบการกิจการโทรทัศน์ฟรีทีวีรายเดิม ประกอบด้วย สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ยังคงมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ครองส่วนแบ่งค่าโฆษณาสูงสุดต่อไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานับจากมีการออกอากาศครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2557 อัตราการเปลี่ยนไปรับชมทีวีดิจิตอลอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ฟิทช์คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากความล่าช้าในการแจกคูปองสนับสนุนจาก กสทช. ส่งผลให้ประชาชนเลื่อนการตัดสินใจในการซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลออกไป อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าอัตราการเปลี่ยนไปรับชมทีวีดิจิตอลจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2558 และ 2559 หลังจากที่ กสทช.เริ่มแจกจ่ายคูปองสนับสนุนในเดือนตุลาคม 2557
นอกจากนี้ การเปิดตัวรายการใหม่ที่มีคุณภาพในช่องทีวีดิจิตอลก็เป็นไปอย่างล่าช้าเช่นกัน ฟิทช์มองว่าผู้ประกอบการกิจการโทรทัศน์รายใหม่ต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดในการสร้างฐานคนดูเพื่อดึงดูดรายได้ค่าโฆษณา ผู้โฆษณาน่าจะยังคงจัดสรรงบโฆษณาส่วนใหญ่ให้กับช่องของผู้ประกอบการกิจการโทรทัศน์ฟรีทีวีรายเดิมต่อไปในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้
ผู้ประกอบการกิจการโทรทัศน์รายใหม่น่าจะต้องใช้ระยะเวลามากขึ้นในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานให้เพียงพอกับเงินลงทุนและค่าใบอนุญาต ฟิทช์คาดว่าช่องทีวีดิจิตอลประเภทรายการทั่วไป (Variety) จำเป็นต้องมีรายได้เฉลี่ยอย่างน้อย 1,400 ล้านบาทต่อปีจึงจะเพียงพอกับต้นทุนค่าผลิตรายการและค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 800 ล้านบาทต่อปี และเงินลงทุน (รวมถึงค่าใบอนุญาต) จำนวนประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อปี
ฟิทช์คาดว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ของไทยยังคงรุนแรงในช่วง 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากจำนวนช่องทีวีที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราค่าโฆษณาโดยรวมของอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม จากฐานคนดูที่มากและรายการที่ได้รับความนิยมสูง ผู้ประกอบการกิจการโทรทัศน์ฟรีทีวีรายเดิมน่าจะยังครองส่วนแบ่งค่าโฆษณาส่วนใหญ่ต่อไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยอัตราค่าโฆษณาที่ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ได้รับน่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าผู้ประกอบการรายใหม่
ในขณะที่อัตราค่าโฆษณาของอุตสาหกรรมโทรทัศน์มีแนวโน้มลดลง ฟิทช์คาดว่างบโฆษณาทางโทรทัศน์ฟรีทีวีภาคพื้นดินน่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเวลาในการออกอากาศที่เพิ่มมากขึ้นจากจำนวนช่องที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลมากกว่าอัตราค่าโฆษณาทางโทรทัศน์ฟรีทีวีภาคพื้นดินที่คาดว่าจะลดลง อัตราค่าโฆษณาทางโทรทัศน์ฟรีทีวีภาคพื้นดินที่คาดว่าจะลดลง น่าจะทำให้มีการโฆษณาจากผู้ประกอบการที่ไม่เคยโฆษณาในโทรทัศน์ฟรีทีวีภาคพื้นดินมาก่อน อาทิ ผู้ประกอบกิจการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ไม่สามารถแบกรับอัตราค่าโฆษณาทางโทรทัศน์ฟรีทีวีภาคพื้นดินที่สูงมากในปัจจุบันได้ ฟิทช์คาดว่างบโฆษณาทางโทรทัศน์ฟรีทีวีภาคพื้นดินที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจะมาจากการย้ายงบโฆษณาจากสื่ออื่น เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และวิทยุ ที่คาดว่าจะลดลง
โฆษณาทางโทรทัศน์ฟรีทีวีภาคพื้นดินมีสัดส่วนในงบโฆษณาที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 60 ของงบโฆษณาโดยรวมทั้งหมด โดยมีสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นผู้นำตลาด ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมกันประมาณร้อยละ 60 ของงบโฆษณาทางโทรทัศน์ทั้งหมด ผู้ประกอบการกิจการโทรทัศน์รายใหม่บนทีวีดิจิตอลส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ในปัจจุบันที่ต้องการมีช่องของตัวเองเพื่อเผยแพร่รายการของตน