ส.อ.ท.จับมือภาครัฐ เอกชน สร้างจุดเปลี่ยน ปรับโครงสร้างพลังงาน เพื่อความยั่งยืน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 14, 2014 14:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดสัมมนาวิชาการ Energy Symposium 2014 เรื่อง “การปรับโครงสร้างภาคพลังงาน...การจัดการร่วมรัฐ เอกชน...จุดเปลี่ยนสำคัญสู่ความยั่งยืน” วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557 เวลา 08.00 – 16.30 น. ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายณรงค์ชัย อัครเศรณี เป็นประธานเปิดการสัมมนาและร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อดังกล่าว พร้อมทั้งวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชน ร่วมอภิปราย และจัดแสดงนิทรรศการ Energy Fair บริเวณหน้างาน ทั้งนี้ การจัดสัมมนาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและผู้เกี่ยวข้องด้านพลังงานได้รับความรู้ ความเข้าใจ ถึงสถานการณ์พลังงานในสภาวการณ์ปัจจุบัน และการนำพลังงานที่มีอยู่อย่างจำกัดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อันจะนำไปสู่ความร่วมมือในการปรับโครงสร้างภาคพลังงานในอนาคตต่อไป นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ประเทศไทยมีปริมาณการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยปี 2556 ที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมเป็นภาคส่วนที่มีการใช้พลังงานสูงที่สุดประมาณ 37 % และมีการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงที่สุด (41.75%) รองลงมาคือภาคธุรกิจ (34.34%) และบ้านที่อยู่อาศัย (22.99%) ซึ่งประเทศไทยมีทรัพยากรปิโตรเลียม (ก๊าซและน้ำมัน) ในประเทศจำนวนจำกัด จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันดิบในสัดส่วนที่สูง ซึ่งประเทศไทยมีการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก โดยคิดเป็นร้อยละ 67 ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงมาก ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านการ Supply ก๊าซธรรมชาติ อาทิ การซ่อมบำรุงแหล่งจ่ายก๊าซจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในการผลิตไฟฟ้า ตลอดจนมีผลต่อราคาค่าไฟฟ้าที่ต้องผูกกับราคาก๊าซมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาไฟฟ้าในอนาคตเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย หากไม่มีการกระจายแหล่งเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้เหมาะสม อันจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต “การปรับโครงสร้างภาคพลังงาน จึงจำเป็นต้องพิจารณาทั้งทางด้าน Demand และ Supply โดยในด้าน Demand Side นั้น การส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงาน หรือใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกภาคส่วน เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง ส่วนด้าน Supply Side นั้น การกระจายแหล่งเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้เหมาะสม การส่งเสริมพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพ ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป อีกทั้งการปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพื่อให้ผู้ใช้พลังงานตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เพี่อความโปร่งใส และเป็นธรรมนั้น ก็จำเป็นต้องเร่งดำเนินการด้วยเช่นกัน” รมว.พลังงาน กล่าว ด้าน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าพลังงานเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นภาคที่มีการใช้พลังงานสูงที่สุด ดังนั้น ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศจึงเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตลอดจนราคาด้านพลังงานที่มีความผันผวน และไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มความรู้ ความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ในเรื่องของการปรับโครงสร้างพลังงาน และเป็นการเตรียมความพร้อมการรวมเป็นตลาดเดียวในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้ “สภาอุตสาหกรรมฯ ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ในการประสานนโยบายและดำเนินการร่วมกับภาครัฐ รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาการประกอบการของภาคอุตสาหกรรม จึงพิจารณาเห็นสมควรให้มีการจัดการสัมมนาวิชาการ Energy Symposium 2014 เรื่อง “การปรับโครงสร้างภาคพลังงาน..การจัดการร่วมรัฐ เอกชน..จุดเปลี่ยนสำคัญสู่ความยั่งยืน” ขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับข้อมูลข่าวสารด้านพลังงาน ตลอดจนแนวนโยบายของภาครัฐ เพื่อได้เตรียมความพร้อม และมีการปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์พลังงานในปัจจุบัน และอนาคต เพื่อสามารถดำเนินการได้สอดคล้อง และแข่งขันกับตลาดโลกได้ พร้อมทั้งเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างภาครัฐ และเอกชน นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการ “Energy Fair” โดยหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนด้านพลังงาน มาร่วมให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนประสบการณ์โดยตรงอีกด้วย” นายสุพันธุ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ